ทำอย่างไรให้เล่นเร็วๆ ได้?
ก็เหมือนกับถามว่า "ทำอย่างไรให้ขับรถเร็วๆ ได้?"
เล่นดนตรีก็เหมือนกับขับรถนั่นแหละครับ ไม่มีใครสามารถขับรถเร็วๆ ได้ทันทีที่เริ่มหัดขับ
ไม่มีใครที่เล่น (ดีด สี ตี เป่า) เร็วๆ ได้ทันทีที่เริ่มหัดเล่น (โดยเฉพาะโน้ตยากๆ ที่ไม่เคยเล่นมาก่อน)
ความจริงก็ได้อยู่เหมือนกันแหละครับ แต่.... ชน...แหลกราน... แน่นอน!!
ถ้าใครพยายามเล่นดนตรีให้เร็วๆ ตั้งแต่แรก ก็ ผิด...แหลกราน... แน่นอน!!
เคยไหมครับ พยายามเล่นให้เร็วเท่าไหร่ มันก็ไม่ได้สักที (เละทุกที)? ยิ่งเร็วก็ยิ่งเละ ยิ่งเร็วๆๆๆๆๆๆๆๆ ก็ยิ่ง เละๆๆๆๆๆๆๆๆ ?
ถ้าเราเคยพยายามเล่นให้เร็วๆ แล้วมันเละ ก็อย่าแปลกใจเลยครับ เพราะว่ามันต้องเละแน่นอน!!!
ตัวผู้เขียนเองก็เหมือนกันครับ ที่เคยพยายามเล่นให้เร็วๆๆๆๆๆๆๆ แล้วมันก็เละๆๆๆๆๆๆๆ !!!
ถ้าเราเป็นคนหนึ่งที่พยายามเล่นให้เร็วๆๆๆๆๆๆๆ ขอให้ท่องประโยคนี้ไว้ให้ขึ้นใจครับ...
"ไม่มีใครสามารถเล่นเร็วๆ ได้ ด้วยการเล่นเร็วๆ!"
ที่ผู้เขียนพูดแบบนี้ ไม่ได้ฟังใครเขามาหรอกครับ ไม่ได้เอามาจากนักปราชญ์คนไหน แต่เป็นขอเท็จจริงที่ถ้าเราพิจารณาดีๆ แล้ว เราก็จะเห็นได้ชัด ไม่ต้องมีนักปราชญ์คนไหนมาบอกเราก็รู้ได้
แต่...
เรามักจะใจร้อนเกินไป! ...
เชื่อเถอะครับ ไม่มีใครที่สามารถเล่นเร็วๆ ได้ โดยการพยายามเล่นให้เร็วๆ...
ไม่เว้นแม้แต่ นักดนตรีที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก!!!
ทุกคนต้องเล่นช้าๆ ก่อนทั้งนั้นครับ ยืนยันได้
ที่ผู้เขียนยืนยันแบบนี้ ไม่ใช่เพราะมีคนอื่นยืนยันแบบนี้มา เลยเอามาบอกต่อ...
แต่พูดด้วยประสบการณ์จริงๆ ... มันเป็นความจริงครับ พิสูจน์มาแล้ว! (เชื่อป๋าเถอะ แล้วจะรุ่ง!)
ข้อเท็จจริงคือ...
"เราจะเล่นเร็วๆ ได้ ต่อเมื่อเราเล่นช้าๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบโดยไม่มีที่ติแล้วเท่านั้น"
ลองเปรียบเทียบกับการขับรถ... เราจะขับรถเร็วๆ ได้ต่อเมื่อ...
- เราฝึกขับช้าๆ จนถึงจุดที่สามารถทำทุกอย่างตามขั้นตอนได้อย่างไม่ผิดเลย
- เราฝึกขับช้าๆ จนถึงจุดที่ไม่ต้องคิดว่าจะต้องทำอะไรก่อนอะไรหลัง
- เราฝึกขับช้าๆ จนถึงจุดที่ไม่มีความกังวลว่าจะทำอะไรผิดขั้นตอนจนไปชนนั่นชนนี่เข้า
- เราฝึกขับช้าๆ จนถึงจุดที่เรารู้สึกว่า ไม่ว่าจะขับช้าหรือขับเร็ว มันก็ไม่ต่างกัน เพราะมันง่ายเหมือนกัน
การเล่นดนตรีก็เหมือนกันนั่นแหละครับ ไม่ว่าเราจะเล่นเปียโน ฟลูต หรือไวโอลิน หรือเครื่องดนตรีอื่นๆ... เราจะเล่นเร็วๆ ได้ต่อเมื่อ...
- เราฝึกเล่นช้าๆ จนรู้อย่างชัดเจนว่า โน้ตแต่ละตัวใช้นิ้วไหน รูปปากเป็นอย่างไร ฯลฯ (สุดแล้วแต่เทคนิคของเครื่องดนตรีแต่ละอย่าง)
- เราฝึกเล่นช้าๆ จนรู้อย่างชัดเจนว่า โน้ตตัวไหนจังหวะตก โน้ตตัวไหนจังหวะยก ฯลฯ
- เราฝึกเล่นช้าๆ จนไม่ต้องพยายามคิดว่า โน้ตตัวต่อๆ ไปมีโน้ตอะไรบ้าง
- เราฝึกเล่นช้าๆ จนเรารู้สึกว่า ไม่ว่าจะเล่นช้าหรือเล่นเร็ว มันก็ไม่ต่างกัน เพราะมันง่ายเหมือนกัน
- ฯลฯ
เมื่อไหร่ก็ตามที่เราทำช้าๆ ได้อย่างถูกต้องสมบูรณ์แบบโดยไม่ต้องคิด เมื่อนั้นแหละเรียกว่า "คล่อง" "เชี่ยวชาญ" หรือ "ชำนาญ"
เมื่อไหร่ก็ตามที่เรา "คล่อง" "เชี่ยวชาญ" หรือ "ชำนาญ" เราจะเล่นเร็วๆ ได้
ข้อเท็จจริงคือ...
"เราจะเล่นเร็วๆ ได้ ต่อเมื่อเราเล่นช้าๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบโดยไม่มีที่ติแล้วเท่านั้น"
เพราะฉะนั้น เราควรจะซ้อมช้าๆ สักประมาณ 90% เป็นอย่างน้อย
อีก 10% เล่นเร็วๆ เพียงเพื่อให้รู้ว่าเรายังมีข้อบกพร่องอยู่หรือไม่ หรือยังต้องซ้อมช้าๆ ต่อไปอีกจนกว่าจะเกิดความ "ชำนาญ" อย่างแท้จริงหรือไม่
ถ้าเราซ้อมช้าๆ ผิด เราก็จะเล่นเร็วๆ ผิด
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ การเล่นไวโอลินไม่ให้เสียงเพี้ยน...
ถ้าเราซ้อมช้าๆ เสียงเพี้ยน เวลาเล่นเร็วๆ เสียงก็จะเพี้ยน แต่ถ้าเราซ้อมช้าๆ จนจำตำแหน่งนิ้วแต่ละนิ้วได้อย่างแม่นยำ ไม่พลาดเลยแม้แต่เศษเสี้ยวมิลลิเมตร แม่นยำทุกครั้งที่กดนิ้วลงไป เมื่อเล่นเร็วๆ เสียงก็จะไม่เพี้ยน
แต่ถ้าเรากดนิ้วไม่แม่นยำแม้แต่เล่นช้าๆ เล่นเร็วๆ ก็ต้องเพี้ยนอย่างไม่ต้องสงสัย
สำหรับเครื่องดนตรีอื่นๆ ก็เป็นในทำนองเดียวกัน คือ ถ้าเราซ้อมช้าๆ ผิด เราก็จะเล่นเร็วๆ ผิด!
พัดลมที่หมุนเร็วๆ เราจะมองเห็นไม่ได้ว่ามันมีกี่ใบพัด แต่ถ้ามันหมุนช้าๆ เราก็เห็นได้อย่างชัดเจน
ฉันใดก็ฉันนั้น ถ้าเราซ้อมเร็วๆ เราจะไม่สามารถรู้ได้อย่างชัดเจนว่าเราทำอะไรผิดพลาดไปบ้าง แต่ถ้าเราซ้อมช้าๆ เราก็จะสามารถทำให้ถูกต้องได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งถ้ามันช้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ มันก็จะเร็วได้อย่างสมบูรณ์แบบเหมือนกัน
"เมื่อไหร่ก็ตามที่เราทำสิ่งที่ถูกต้องช้าๆ ได้จนเป็นอัตโนมัติ เราจะทำสิ่งที่ถูกต้องเร็วๆ ได้อย่างเป็นอัตโนมัติ!"
นักดนตรีไทย
ผู้เขียนมีเพื่อนเป็นนักดนตรีไทยหลายคน ไม่ว่าจะเป็นระนาด ขิม ซอ หรืออื่นๆ สักเกตได้ว่า เพื่อนที่เล่นดนตรีไทยไม่ค่อยมีความกังวลในการเล่นดนตรีเร็วๆ
เมื่อพิจารณาแล้วก็เห็นได้ว่า พวกที่เล่นดนตรีไทยโดยปรกติไม่ได้ดูโน้ต แต่จะเล่นเพลงต่างๆ ได้โดยการฟังจากครูบอก เป็นแบบ "มุขปาฐะ" เรียกว่าการ "ต่อเพลง"
การต่อเพลงของนักดนตรีไทย มีข้อดีมากๆ คือ เป็นการบังคับว่าต้องจำไปในตัว เวลาฝึกซ้อมก็จะต้องคอยนึกว่ามีโน้ตตัวอะไรต่อๆ ไป ก็เลยเป็นการฝึกซ้อมช้าๆ ไปโดยอัตโนมัติ
แต่พอซ้อมช้าๆ แบบค่อยๆ นึกไป ค่อยๆ จำไป จนกระทั่งจำได้อย่างแม่นยำ คือจำได้อย่างแม่นยำทั้งโน้ต ทั้งเสียงของโน้ตแต่ละตัว ทั้งเทคนิคในการวางนิ้ววางมือ... ฯลฯ
เมื่อจำได้อย่างแม่นยำดังกล่าวแล้ว ครูไม่ต้องบอกให้เล่นเร็วๆ ลูกศิษย์ก็จะสามารถเล่นเร็วๆ ได้โดยอัตโนมัติ
เร็วได้แบบไม่ต้องคิด!
เร็วได้แบบสบายๆ !
เร็วก็เหมือนกับช้า ช้าก็เหมือนกับเร็ว!
แต่คนที่เล่นดนตรีตะวันตกแบบที่มีโน้ตในดู...
พยายามฝึกให้เร็วๆๆๆๆ ...
แล้วเป็นไงครับ...
เร็วได้แบบไม่ต้องคิด! (ไม่ต้องคิดเลยว่ามันจะถูกบ้างไหม)
เร็วได้แบบยากเย็นสุดๆ ! (ทำไมมันยากอย่างนี้)
เร็วไม่เหมือนช้า ช้าไม่เหมือนเร็ว! (จริงๆ แล้วอาจไม่เคยซ้อมช้าๆ มาก่อนเลยก็ได้ เลยไม่รู้ว่าช้าเป็นอย่างไร!)
วิธีการฝึกซ้อมที่ดี
ซ้อมแบบจำๆ ดูๆ คือ ดูแล้วก็จำ แล้วก็ซ้อมช้าๆ จนไม่ต้องพยายามนึก
จำแล้วก็ดูโน้ตอีก แล้วก็ซ้อมช้าๆ จนไม่ต้องพยายามนึกอีก
ค่อยๆ ปะติดปะต่อๆ สิ่งต่างๆ เข้าด้วยกัน ทีละนิดๆ ... แบบสบายๆ ... ไม่เครียด
(แต่สำหรับคนที่เรียนในขั้นสูงๆ อาจเครียดได้ ถ้าให้เวลากับการซ้อมน้อยเกินไป โปรดระวังว่าความซวยอาจบังเกิดได้!)
ค่อยๆ ซ้อม... แบบช้าๆ ... ให้สมบูรณ์แบบ ...
รับรองว่าเล่นเร็วๆ ได้แน่นอนครับ...
ดนตรีเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง
ศิลปะทุกอย่างเป็นของประณีต เป็นของละเอียดอ่อน
ดนตรีก็เป็นศิลปะเหมือนกัน ฉะนั้น ถ้าเราซ้อมอย่างไม่มีศิลปะ ผลลัพธ์ที่ออกมาก็จะต้องไม่มีศิลปะนั่นแหละ
แต่ถ้าเราซ้อมช้าๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไป ทีละนิด แต่บ่อยๆ อย่างสม่ำเสมอ ค่อยๆ ละเมียดละไม ทำให้ประณีต เหมือนกับกำลังสร้างสรรค์ประติมากรรมชิ้นเอก...
ผลลัพธ์ที่ออกมาก็คือ ศิลปะชิ้นเอกเช่นกัน...
ความจริงการฝึกซ้อมดนตรีไม่ใช่ของยาก ที่เรารู้สึกว่ายากเพราะเราใจร้อนเกินไป ต้องการให้ได้ในทันทีทันใด
แต่ถ้าเราค่อยๆ ซ้อมไปตามขั้นตอนที่ควรจะเป็น อย่างสม่ำเสมอ ไม่บังคับว่าจะได้เมื่อไหร่ เราจะพบว่าความก้าวหน้าต่างๆ เกิดขึ้นเร็วกว่าที่เราคิด เร็วจนเราคาดไม่ถึงด้วยซ้ำไป...
เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่อยากเก่งครับ... (สู้ๆ !)
ก็เหมือนกับถามว่า "ทำอย่างไรให้ขับรถเร็วๆ ได้?"
เล่นดนตรีก็เหมือนกับขับรถนั่นแหละครับ ไม่มีใครสามารถขับรถเร็วๆ ได้ทันทีที่เริ่มหัดขับ
ไม่มีใครที่เล่น (ดีด สี ตี เป่า) เร็วๆ ได้ทันทีที่เริ่มหัดเล่น (โดยเฉพาะโน้ตยากๆ ที่ไม่เคยเล่นมาก่อน)
ความจริงก็ได้อยู่เหมือนกันแหละครับ แต่.... ชน...แหลกราน... แน่นอน!!
ถ้าใครพยายามเล่นดนตรีให้เร็วๆ ตั้งแต่แรก ก็ ผิด...แหลกราน... แน่นอน!!
เคยไหมครับ พยายามเล่นให้เร็วเท่าไหร่ มันก็ไม่ได้สักที (เละทุกที)? ยิ่งเร็วก็ยิ่งเละ ยิ่งเร็วๆๆๆๆๆๆๆๆ ก็ยิ่ง เละๆๆๆๆๆๆๆๆ ?
ถ้าเราเคยพยายามเล่นให้เร็วๆ แล้วมันเละ ก็อย่าแปลกใจเลยครับ เพราะว่ามันต้องเละแน่นอน!!!
ตัวผู้เขียนเองก็เหมือนกันครับ ที่เคยพยายามเล่นให้เร็วๆๆๆๆๆๆๆ แล้วมันก็เละๆๆๆๆๆๆๆ !!!
ถ้าเราเป็นคนหนึ่งที่พยายามเล่นให้เร็วๆๆๆๆๆๆๆ ขอให้ท่องประโยคนี้ไว้ให้ขึ้นใจครับ...
"ไม่มีใครสามารถเล่นเร็วๆ ได้ ด้วยการเล่นเร็วๆ!"
ที่ผู้เขียนพูดแบบนี้ ไม่ได้ฟังใครเขามาหรอกครับ ไม่ได้เอามาจากนักปราชญ์คนไหน แต่เป็นขอเท็จจริงที่ถ้าเราพิจารณาดีๆ แล้ว เราก็จะเห็นได้ชัด ไม่ต้องมีนักปราชญ์คนไหนมาบอกเราก็รู้ได้
แต่...
เรามักจะใจร้อนเกินไป! ...
เชื่อเถอะครับ ไม่มีใครที่สามารถเล่นเร็วๆ ได้ โดยการพยายามเล่นให้เร็วๆ...
ไม่เว้นแม้แต่ นักดนตรีที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก!!!
ทุกคนต้องเล่นช้าๆ ก่อนทั้งนั้นครับ ยืนยันได้
ที่ผู้เขียนยืนยันแบบนี้ ไม่ใช่เพราะมีคนอื่นยืนยันแบบนี้มา เลยเอามาบอกต่อ...
แต่พูดด้วยประสบการณ์จริงๆ ... มันเป็นความจริงครับ พิสูจน์มาแล้ว! (เชื่อป๋าเถอะ แล้วจะรุ่ง!)
ข้อเท็จจริงคือ...
"เราจะเล่นเร็วๆ ได้ ต่อเมื่อเราเล่นช้าๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบโดยไม่มีที่ติแล้วเท่านั้น"
ลองเปรียบเทียบกับการขับรถ... เราจะขับรถเร็วๆ ได้ต่อเมื่อ...
- เราฝึกขับช้าๆ จนถึงจุดที่สามารถทำทุกอย่างตามขั้นตอนได้อย่างไม่ผิดเลย
- เราฝึกขับช้าๆ จนถึงจุดที่ไม่ต้องคิดว่าจะต้องทำอะไรก่อนอะไรหลัง
- เราฝึกขับช้าๆ จนถึงจุดที่ไม่มีความกังวลว่าจะทำอะไรผิดขั้นตอนจนไปชนนั่นชนนี่เข้า
- เราฝึกขับช้าๆ จนถึงจุดที่เรารู้สึกว่า ไม่ว่าจะขับช้าหรือขับเร็ว มันก็ไม่ต่างกัน เพราะมันง่ายเหมือนกัน
การเล่นดนตรีก็เหมือนกันนั่นแหละครับ ไม่ว่าเราจะเล่นเปียโน ฟลูต หรือไวโอลิน หรือเครื่องดนตรีอื่นๆ... เราจะเล่นเร็วๆ ได้ต่อเมื่อ...
- เราฝึกเล่นช้าๆ จนรู้อย่างชัดเจนว่า โน้ตแต่ละตัวใช้นิ้วไหน รูปปากเป็นอย่างไร ฯลฯ (สุดแล้วแต่เทคนิคของเครื่องดนตรีแต่ละอย่าง)
- เราฝึกเล่นช้าๆ จนรู้อย่างชัดเจนว่า โน้ตตัวไหนจังหวะตก โน้ตตัวไหนจังหวะยก ฯลฯ
- เราฝึกเล่นช้าๆ จนไม่ต้องพยายามคิดว่า โน้ตตัวต่อๆ ไปมีโน้ตอะไรบ้าง
- เราฝึกเล่นช้าๆ จนเรารู้สึกว่า ไม่ว่าจะเล่นช้าหรือเล่นเร็ว มันก็ไม่ต่างกัน เพราะมันง่ายเหมือนกัน
- ฯลฯ
เมื่อไหร่ก็ตามที่เราทำช้าๆ ได้อย่างถูกต้องสมบูรณ์แบบโดยไม่ต้องคิด เมื่อนั้นแหละเรียกว่า "คล่อง" "เชี่ยวชาญ" หรือ "ชำนาญ"
เมื่อไหร่ก็ตามที่เรา "คล่อง" "เชี่ยวชาญ" หรือ "ชำนาญ" เราจะเล่นเร็วๆ ได้
ข้อเท็จจริงคือ...
"เราจะเล่นเร็วๆ ได้ ต่อเมื่อเราเล่นช้าๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบโดยไม่มีที่ติแล้วเท่านั้น"
เพราะฉะนั้น เราควรจะซ้อมช้าๆ สักประมาณ 90% เป็นอย่างน้อย
อีก 10% เล่นเร็วๆ เพียงเพื่อให้รู้ว่าเรายังมีข้อบกพร่องอยู่หรือไม่ หรือยังต้องซ้อมช้าๆ ต่อไปอีกจนกว่าจะเกิดความ "ชำนาญ" อย่างแท้จริงหรือไม่
ถ้าเราซ้อมช้าๆ ผิด เราก็จะเล่นเร็วๆ ผิด
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ การเล่นไวโอลินไม่ให้เสียงเพี้ยน...
ถ้าเราซ้อมช้าๆ เสียงเพี้ยน เวลาเล่นเร็วๆ เสียงก็จะเพี้ยน แต่ถ้าเราซ้อมช้าๆ จนจำตำแหน่งนิ้วแต่ละนิ้วได้อย่างแม่นยำ ไม่พลาดเลยแม้แต่เศษเสี้ยวมิลลิเมตร แม่นยำทุกครั้งที่กดนิ้วลงไป เมื่อเล่นเร็วๆ เสียงก็จะไม่เพี้ยน
แต่ถ้าเรากดนิ้วไม่แม่นยำแม้แต่เล่นช้าๆ เล่นเร็วๆ ก็ต้องเพี้ยนอย่างไม่ต้องสงสัย
สำหรับเครื่องดนตรีอื่นๆ ก็เป็นในทำนองเดียวกัน คือ ถ้าเราซ้อมช้าๆ ผิด เราก็จะเล่นเร็วๆ ผิด!
พัดลมที่หมุนเร็วๆ เราจะมองเห็นไม่ได้ว่ามันมีกี่ใบพัด แต่ถ้ามันหมุนช้าๆ เราก็เห็นได้อย่างชัดเจน
ฉันใดก็ฉันนั้น ถ้าเราซ้อมเร็วๆ เราจะไม่สามารถรู้ได้อย่างชัดเจนว่าเราทำอะไรผิดพลาดไปบ้าง แต่ถ้าเราซ้อมช้าๆ เราก็จะสามารถทำให้ถูกต้องได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งถ้ามันช้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ มันก็จะเร็วได้อย่างสมบูรณ์แบบเหมือนกัน
"เมื่อไหร่ก็ตามที่เราทำสิ่งที่ถูกต้องช้าๆ ได้จนเป็นอัตโนมัติ เราจะทำสิ่งที่ถูกต้องเร็วๆ ได้อย่างเป็นอัตโนมัติ!"
นักดนตรีไทย
ผู้เขียนมีเพื่อนเป็นนักดนตรีไทยหลายคน ไม่ว่าจะเป็นระนาด ขิม ซอ หรืออื่นๆ สักเกตได้ว่า เพื่อนที่เล่นดนตรีไทยไม่ค่อยมีความกังวลในการเล่นดนตรีเร็วๆ
เมื่อพิจารณาแล้วก็เห็นได้ว่า พวกที่เล่นดนตรีไทยโดยปรกติไม่ได้ดูโน้ต แต่จะเล่นเพลงต่างๆ ได้โดยการฟังจากครูบอก เป็นแบบ "มุขปาฐะ" เรียกว่าการ "ต่อเพลง"
การต่อเพลงของนักดนตรีไทย มีข้อดีมากๆ คือ เป็นการบังคับว่าต้องจำไปในตัว เวลาฝึกซ้อมก็จะต้องคอยนึกว่ามีโน้ตตัวอะไรต่อๆ ไป ก็เลยเป็นการฝึกซ้อมช้าๆ ไปโดยอัตโนมัติ
แต่พอซ้อมช้าๆ แบบค่อยๆ นึกไป ค่อยๆ จำไป จนกระทั่งจำได้อย่างแม่นยำ คือจำได้อย่างแม่นยำทั้งโน้ต ทั้งเสียงของโน้ตแต่ละตัว ทั้งเทคนิคในการวางนิ้ววางมือ... ฯลฯ
เมื่อจำได้อย่างแม่นยำดังกล่าวแล้ว ครูไม่ต้องบอกให้เล่นเร็วๆ ลูกศิษย์ก็จะสามารถเล่นเร็วๆ ได้โดยอัตโนมัติ
เร็วได้แบบไม่ต้องคิด!
เร็วได้แบบสบายๆ !
เร็วก็เหมือนกับช้า ช้าก็เหมือนกับเร็ว!
แต่คนที่เล่นดนตรีตะวันตกแบบที่มีโน้ตในดู...
พยายามฝึกให้เร็วๆๆๆๆ ...
แล้วเป็นไงครับ...
เร็วได้แบบไม่ต้องคิด! (ไม่ต้องคิดเลยว่ามันจะถูกบ้างไหม)
เร็วได้แบบยากเย็นสุดๆ ! (ทำไมมันยากอย่างนี้)
เร็วไม่เหมือนช้า ช้าไม่เหมือนเร็ว! (จริงๆ แล้วอาจไม่เคยซ้อมช้าๆ มาก่อนเลยก็ได้ เลยไม่รู้ว่าช้าเป็นอย่างไร!)
วิธีการฝึกซ้อมที่ดี
ซ้อมแบบจำๆ ดูๆ คือ ดูแล้วก็จำ แล้วก็ซ้อมช้าๆ จนไม่ต้องพยายามนึก
จำแล้วก็ดูโน้ตอีก แล้วก็ซ้อมช้าๆ จนไม่ต้องพยายามนึกอีก
ค่อยๆ ปะติดปะต่อๆ สิ่งต่างๆ เข้าด้วยกัน ทีละนิดๆ ... แบบสบายๆ ... ไม่เครียด
(แต่สำหรับคนที่เรียนในขั้นสูงๆ อาจเครียดได้ ถ้าให้เวลากับการซ้อมน้อยเกินไป โปรดระวังว่าความซวยอาจบังเกิดได้!)
ค่อยๆ ซ้อม... แบบช้าๆ ... ให้สมบูรณ์แบบ ...
รับรองว่าเล่นเร็วๆ ได้แน่นอนครับ...
ดนตรีเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง
ศิลปะทุกอย่างเป็นของประณีต เป็นของละเอียดอ่อน
ดนตรีก็เป็นศิลปะเหมือนกัน ฉะนั้น ถ้าเราซ้อมอย่างไม่มีศิลปะ ผลลัพธ์ที่ออกมาก็จะต้องไม่มีศิลปะนั่นแหละ
แต่ถ้าเราซ้อมช้าๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไป ทีละนิด แต่บ่อยๆ อย่างสม่ำเสมอ ค่อยๆ ละเมียดละไม ทำให้ประณีต เหมือนกับกำลังสร้างสรรค์ประติมากรรมชิ้นเอก...
ผลลัพธ์ที่ออกมาก็คือ ศิลปะชิ้นเอกเช่นกัน...
ความจริงการฝึกซ้อมดนตรีไม่ใช่ของยาก ที่เรารู้สึกว่ายากเพราะเราใจร้อนเกินไป ต้องการให้ได้ในทันทีทันใด
แต่ถ้าเราค่อยๆ ซ้อมไปตามขั้นตอนที่ควรจะเป็น อย่างสม่ำเสมอ ไม่บังคับว่าจะได้เมื่อไหร่ เราจะพบว่าความก้าวหน้าต่างๆ เกิดขึ้นเร็วกว่าที่เราคิด เร็วจนเราคาดไม่ถึงด้วยซ้ำไป...
เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่อยากเก่งครับ... (สู้ๆ !)