8 วิธี อันน่าทึ่งที่จะพัฒนาการควบคุมจังหวะของคุณ
8 วิธี อันน่าทึ่งที่จะพัฒนาการควบคุมจังหวะของคุณ
Metronomes ( เครื่องกำหนดจังหวะ ) , click tracks, กลองไฟฟ้า , sequencers (ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการบันทึก ปรับแต่งและเล่นกับแฟ้ม MIDI ) มีอยู่ในทุกที่ ตั้งแต่ในห้องซ้อมไปจนถึง เวทีคอนเสิร์ต และในห้องบันทึกเสียง มือกลองในทุกระดับและทุกแนวเพลง ล้วนพยายามที่จะหาวิธีที่จะสามารถทำงานร่วมกับเจ้าเครื่องกำหนดจังหวะเหล่านี้
เมื่อก่อนนี้เราจะได้ยินมือกลองหลายท่านบ่นเกี่ยวกับการเล่นพร้อมกับเครื่องกำหนดจังหวะว่า จะทำให้ขาดสำเนียงและเหมือนหุ่นยนต์ แต่ทุกวันนี้มือกลองจำนวนมาก ยึดเอาเครื่องกำหนดจังหวะเป็นหนทางสู่การพัฒนาให้เล่นได้ความเหนียวแน่น และเข้าถึงอารมณ์ของบทเพลง ภายในบทความนี้ จะเสนอให้คุณเห็นถึงเทคนิคต่างๆที่ออกแบบมากเพื่อช่วยให้คุณสามารถฝึกซ้อมกับ metronome ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อันดับแรกนั้นคุณจะต้องมั่นใจว่า คุณมี metronome ที่มีคุณภาพสูง ถ้าคุณเพียงแค่ฝึกบนแป้นซ้อมคุณก็สามารถใช้ metronome ธรรมดาได้ แต่ถ้าหากคุณคิดที่จะใช้สำหรับกลองชุด คุณจำเป็นจะต้องมี metronome ที่มีช่องสำหรับเสียบหูฟังที่เป็นระบบ stereo หรืออาจใช้กลองไฟฟ้าก็ได้ หลังจากนั้นก็ต้องมี หูฟังที่มีคุณภาพ และแนะนำให้ใส่ที่อุดหูลดเสียง ( earplugs ) เวลาที่ใช้หูฟังแบบครอบ เพราะเสียงสูงของ metronome อาจเป็นอันตรายต่อหูได้โดยเฉพาะเมื่อเราจำเป็นต้องเปิดเสียงให้ดังแข่งกับเสียงกลอง ซึ่ง มอนิเตอร์แบบชนิดหูฟัง ก็เป็นทางออกที่ดี อีกทั้งปัจจุบันยังมีรุ่นที่ราคาถูกให้เลือกอีกด้วย เมื่อได้ครบแล้วก็ลองไปลุยกันเลย
1. กำหนดความเร็วขึ้นมาแบบสุ่ม จากนั้นกดปุ่ม Start เพื่อให้ metronome ทำงาน จากนั้นตั้งใจฟังภายใน 1 ห้อง (4 จังหวะ กรณีที่ฝึกซ้อมใน 4/4) แล้วจึงเริ่มเล่น groove สิ่งสำคัญคือจะต้องพยายามที่จะจับจังหวะให้ได้ภายใน 1 ห้อง และสังเกตว่าการเล่น bass drum, snare drum, hi-hats เป็นอย่างไร ตรงกับ metronome หรือไม่
การฝึกเช่นนี้จะช่วยคุณสามารถเกาะจังหวะ เวลาที่สมาชิกคนอื่นเป็นผู้นับเริ่มเพลงให้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่เล่นเพลงในความเร็วที่ไม่คุ้นเคย
2. กำหนดความเร็ว แล้วซ้อมด้วยความเร็วนี้ประมาณ 5 นาทีหรือมากกว่า พยายามเล่นหลายๆ แนวเพลง หรือ อารมณ์ บางทีอาจจะลองเล่นโซโล่ หลังจากนั้นให้หยุดเล่นเปลี่ยวความเร็วของ metronome ทันทีโดยปรับให้ช้าลง 2 -3 bpm . ( beats per minute ) คราวนี้ลองเล่นสิ่งคล้ายๆกับสิ่งที่ได้ซ้อมเมื่อสักครู่ และทำเช่นเดียวกันอีกครั้งด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นจากครั้งแรก เล็กน้อย
วิธีนี้จะช่วยให้คุณเกิดความเข้าใจและสังเกตเห็นความแตกต่างของความเร็วที่เปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อยได้
3.เปลี่ยนจากการเปิด metronome ที่เป็นตัวดำ (มีเสียงทุก 1 จังหวะ) ลองเปลี่ยนเป็นตัวขาวหรือตัวกลม (ให้จังหวะทุก 2 หรือ 4 จังหวะตามลำดับ) หรือถ้าคุณซ้อมด้วยกลองไฟฟ้า อาจจะตั้งโปรแกรมให้เป็น ให้จังหวะทุก 2 ห้อง หรือ 4 ห้อง หรือมากกว่านั้น
4. ลองซ้อมกับ metronome โดยให้เสียง metronome เป็นจังหวะที่ 2 ของห้อง จากนั้นเปลี่ยนเป็น จังหวะที่ 3, 4, & ของจังหวะที่ 1, & ของจังหวะที่ 2, & ของจังหวะที่ 3, & ของจังหวะที่ 4 (ทำทีละอย่างนะครับ) ลองกำหนดให้ยากเท่าที่คุณจะทำได้
5.เลือกความเร็วที่คุณเล่นได้สบายที่สุดจากนั้นก็เล่นกับความเร็วนี้ สัก 8 ห้องแล้วจึงปิดเสียง metronome ในขณะที่คุณยังคงเล่นอยู่และเล่นต่อไปอีก 8 ห้อง จากนั้นเปิดเสียง metronome กลับมา แน่นอนว่าคุณยังคงเล่นอยู่
สังเกตว่าคุณอาจจะต้องปรับความเร็ว เพื่อให้กลับมาเล่นคามเร็วเดิม แบบฝึกหัดนี้จะทำได้ง่ายขึ้นถ้าคุณมี footswitch (ปุ่มเปิดปิดแบบเหยียบ) สำหรับ metronome คุณ
6. ตั้งความเร็วที่คุณจะเล่นได้อย่างสบายๆ ตัวอย่างเช่น 115 bpm. เล่นกับความเร็วนี้สัก 2-3 นาที จากนั้นให้เปลี่ยนความเร็วของ metronome ไม่สัมพันธ์กันกับของเดิมเช่น 136 bpm. ที่คุณต้องทำคือพยายามเล่นด้วยความเร็วเดิม (115) ในขณะที่ฟังความเร็วใหม่ (136) แน่นอนว่ายากมาก แต่สิ่งนี้อาจช่วยให้คุณรักษาความเร็วของคุณเอาไว้ เช่นในกรณีที่คุณเข้าห้องอัดแล้วเล่นหลุดจากความเร็วของ metronome หรือในเวลาที่คุณต้องเล่นกับนักดนตรีคนอื่นที่มีปัญหาในการควบคุมจังหวะ
7. ให้พยายามใช้ metronome ควบคู่ไปกับการเล่นกับวง ผู้เขียนสนับสนุนอย่างเต็มที่ว่าควรใช้วิธีนี้ในการฝึกซ้อมกับวง เพราะจะมีประโยชน์มาก โดยให้คุณให้ความสนใจกับการควบคุมความเร็วเมื่อถึงช่วงที่มีการเปลี่ยนท่อนของบเพลง เป็นธรรมดาที่มือกลองจะรู้สึกว่า ท่อน hook ของเพลงนั้นๆ จะเร็วหรือช้ากว่าท่อน ปกติ ( verse ) นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณพบว่าท่อนใดที่คุณควรจะต้อง ให้ความรู้สึกเร่งขึ้นหรือเฉื่อยลงเพื่อให้ความเร็วคงที่
8. เมื่อคุณรู้สึกคุ้นเคยและสะดวกกับการใช้ metronome ในการฝึกซ้อมมากพอแล้ว ลองนำไปใช้ในขณะทำการแสดง ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาเตรียมตัวมากกว่าที่จะรู้สึกถนัด ก่อนการแสดงนั้นคุณต้องทำการเรียงลำดับความเร็วที่จะใช้ในแต่ละเพลง โดยอาจจดด้วยตัวเองหรือสำหรับ metronome บางรุ่นก็สามารถบันทึกความเร็วๆเอาไว้ได้เป็นช่องๆ
ตามที่ผู้เขียนได้อ้างเอาไว้ตั้งแต่ต้นบทความว่าต้องมั่นใจว่าคุณสามารถได้ยินเสียงของ metronome ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดก็คือการใช้ in-ear monitors อีกประการคือให้คุณบันทึกการแสดงและดูว่าความเร็วนั้นทำให้คุณรู้สึกดีหรือไม่ ลองเปรียบเทียบกับบันทึกการแสดงครั้งที่ไม่ได้ใช้ metronome สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงแนวทางที่จะทำให้คุณรักษาความเหนียวแน่นในการเล่นไว้ได้ ไม่ว่าคุณจะรู้สึกตื่นเต้นจนเกินไปหรือรู้สึกเหนื่อยล้าความเร็วของเพลงก็จะไม่เร็วหรือช้าจนเกินไ
Metronomes ( เครื่องกำหนดจังหวะ ) , click tracks, กลองไฟฟ้า , sequencers (ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการบันทึก ปรับแต่งและเล่นกับแฟ้ม MIDI ) มีอยู่ในทุกที่ ตั้งแต่ในห้องซ้อมไปจนถึง เวทีคอนเสิร์ต และในห้องบันทึกเสียง มือกลองในทุกระดับและทุกแนวเพลง ล้วนพยายามที่จะหาวิธีที่จะสามารถทำงานร่วมกับเจ้าเครื่องกำหนดจังหวะเหล่านี้
เมื่อก่อนนี้เราจะได้ยินมือกลองหลายท่านบ่นเกี่ยวกับการเล่นพร้อมกับเครื่องกำหนดจังหวะว่า จะทำให้ขาดสำเนียงและเหมือนหุ่นยนต์ แต่ทุกวันนี้มือกลองจำนวนมาก ยึดเอาเครื่องกำหนดจังหวะเป็นหนทางสู่การพัฒนาให้เล่นได้ความเหนียวแน่น และเข้าถึงอารมณ์ของบทเพลง ภายในบทความนี้ จะเสนอให้คุณเห็นถึงเทคนิคต่างๆที่ออกแบบมากเพื่อช่วยให้คุณสามารถฝึกซ้อมกับ metronome ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อันดับแรกนั้นคุณจะต้องมั่นใจว่า คุณมี metronome ที่มีคุณภาพสูง ถ้าคุณเพียงแค่ฝึกบนแป้นซ้อมคุณก็สามารถใช้ metronome ธรรมดาได้ แต่ถ้าหากคุณคิดที่จะใช้สำหรับกลองชุด คุณจำเป็นจะต้องมี metronome ที่มีช่องสำหรับเสียบหูฟังที่เป็นระบบ stereo หรืออาจใช้กลองไฟฟ้าก็ได้ หลังจากนั้นก็ต้องมี หูฟังที่มีคุณภาพ และแนะนำให้ใส่ที่อุดหูลดเสียง ( earplugs ) เวลาที่ใช้หูฟังแบบครอบ เพราะเสียงสูงของ metronome อาจเป็นอันตรายต่อหูได้โดยเฉพาะเมื่อเราจำเป็นต้องเปิดเสียงให้ดังแข่งกับเสียงกลอง ซึ่ง มอนิเตอร์แบบชนิดหูฟัง ก็เป็นทางออกที่ดี อีกทั้งปัจจุบันยังมีรุ่นที่ราคาถูกให้เลือกอีกด้วย เมื่อได้ครบแล้วก็ลองไปลุยกันเลย
1. กำหนดความเร็วขึ้นมาแบบสุ่ม จากนั้นกดปุ่ม Start เพื่อให้ metronome ทำงาน จากนั้นตั้งใจฟังภายใน 1 ห้อง (4 จังหวะ กรณีที่ฝึกซ้อมใน 4/4) แล้วจึงเริ่มเล่น groove สิ่งสำคัญคือจะต้องพยายามที่จะจับจังหวะให้ได้ภายใน 1 ห้อง และสังเกตว่าการเล่น bass drum, snare drum, hi-hats เป็นอย่างไร ตรงกับ metronome หรือไม่
การฝึกเช่นนี้จะช่วยคุณสามารถเกาะจังหวะ เวลาที่สมาชิกคนอื่นเป็นผู้นับเริ่มเพลงให้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่เล่นเพลงในความเร็วที่ไม่คุ้นเคย
2. กำหนดความเร็ว แล้วซ้อมด้วยความเร็วนี้ประมาณ 5 นาทีหรือมากกว่า พยายามเล่นหลายๆ แนวเพลง หรือ อารมณ์ บางทีอาจจะลองเล่นโซโล่ หลังจากนั้นให้หยุดเล่นเปลี่ยวความเร็วของ metronome ทันทีโดยปรับให้ช้าลง 2 -3 bpm . ( beats per minute ) คราวนี้ลองเล่นสิ่งคล้ายๆกับสิ่งที่ได้ซ้อมเมื่อสักครู่ และทำเช่นเดียวกันอีกครั้งด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นจากครั้งแรก เล็กน้อย
วิธีนี้จะช่วยให้คุณเกิดความเข้าใจและสังเกตเห็นความแตกต่างของความเร็วที่เปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อยได้
3.เปลี่ยนจากการเปิด metronome ที่เป็นตัวดำ (มีเสียงทุก 1 จังหวะ) ลองเปลี่ยนเป็นตัวขาวหรือตัวกลม (ให้จังหวะทุก 2 หรือ 4 จังหวะตามลำดับ) หรือถ้าคุณซ้อมด้วยกลองไฟฟ้า อาจจะตั้งโปรแกรมให้เป็น ให้จังหวะทุก 2 ห้อง หรือ 4 ห้อง หรือมากกว่านั้น
4. ลองซ้อมกับ metronome โดยให้เสียง metronome เป็นจังหวะที่ 2 ของห้อง จากนั้นเปลี่ยนเป็น จังหวะที่ 3, 4, & ของจังหวะที่ 1, & ของจังหวะที่ 2, & ของจังหวะที่ 3, & ของจังหวะที่ 4 (ทำทีละอย่างนะครับ) ลองกำหนดให้ยากเท่าที่คุณจะทำได้
5.เลือกความเร็วที่คุณเล่นได้สบายที่สุดจากนั้นก็เล่นกับความเร็วนี้ สัก 8 ห้องแล้วจึงปิดเสียง metronome ในขณะที่คุณยังคงเล่นอยู่และเล่นต่อไปอีก 8 ห้อง จากนั้นเปิดเสียง metronome กลับมา แน่นอนว่าคุณยังคงเล่นอยู่
สังเกตว่าคุณอาจจะต้องปรับความเร็ว เพื่อให้กลับมาเล่นคามเร็วเดิม แบบฝึกหัดนี้จะทำได้ง่ายขึ้นถ้าคุณมี footswitch (ปุ่มเปิดปิดแบบเหยียบ) สำหรับ metronome คุณ
6. ตั้งความเร็วที่คุณจะเล่นได้อย่างสบายๆ ตัวอย่างเช่น 115 bpm. เล่นกับความเร็วนี้สัก 2-3 นาที จากนั้นให้เปลี่ยนความเร็วของ metronome ไม่สัมพันธ์กันกับของเดิมเช่น 136 bpm. ที่คุณต้องทำคือพยายามเล่นด้วยความเร็วเดิม (115) ในขณะที่ฟังความเร็วใหม่ (136) แน่นอนว่ายากมาก แต่สิ่งนี้อาจช่วยให้คุณรักษาความเร็วของคุณเอาไว้ เช่นในกรณีที่คุณเข้าห้องอัดแล้วเล่นหลุดจากความเร็วของ metronome หรือในเวลาที่คุณต้องเล่นกับนักดนตรีคนอื่นที่มีปัญหาในการควบคุมจังหวะ
7. ให้พยายามใช้ metronome ควบคู่ไปกับการเล่นกับวง ผู้เขียนสนับสนุนอย่างเต็มที่ว่าควรใช้วิธีนี้ในการฝึกซ้อมกับวง เพราะจะมีประโยชน์มาก โดยให้คุณให้ความสนใจกับการควบคุมความเร็วเมื่อถึงช่วงที่มีการเปลี่ยนท่อนของบเพลง เป็นธรรมดาที่มือกลองจะรู้สึกว่า ท่อน hook ของเพลงนั้นๆ จะเร็วหรือช้ากว่าท่อน ปกติ ( verse ) นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณพบว่าท่อนใดที่คุณควรจะต้อง ให้ความรู้สึกเร่งขึ้นหรือเฉื่อยลงเพื่อให้ความเร็วคงที่
8. เมื่อคุณรู้สึกคุ้นเคยและสะดวกกับการใช้ metronome ในการฝึกซ้อมมากพอแล้ว ลองนำไปใช้ในขณะทำการแสดง ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาเตรียมตัวมากกว่าที่จะรู้สึกถนัด ก่อนการแสดงนั้นคุณต้องทำการเรียงลำดับความเร็วที่จะใช้ในแต่ละเพลง โดยอาจจดด้วยตัวเองหรือสำหรับ metronome บางรุ่นก็สามารถบันทึกความเร็วๆเอาไว้ได้เป็นช่องๆ
ตามที่ผู้เขียนได้อ้างเอาไว้ตั้งแต่ต้นบทความว่าต้องมั่นใจว่าคุณสามารถได้ยินเสียงของ metronome ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดก็คือการใช้ in-ear monitors อีกประการคือให้คุณบันทึกการแสดงและดูว่าความเร็วนั้นทำให้คุณรู้สึกดีหรือไม่ ลองเปรียบเทียบกับบันทึกการแสดงครั้งที่ไม่ได้ใช้ metronome สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงแนวทางที่จะทำให้คุณรักษาความเหนียวแน่นในการเล่นไว้ได้ ไม่ว่าคุณจะรู้สึกตื่นเต้นจนเกินไปหรือรู้สึกเหนื่อยล้าความเร็วของเพลงก็จะไม่เร็วหรือช้าจนเกินไ