Dominant Triad
คือ คอร์ดลำดับที่ 5 ของสเกล เป็นคอร์ดที่มีความสำคัญมากที่สุดคอร์ดหนึ่ง จะเป็นรองก็แต่ Tonic Triad เท่านั้น ตรัยแอดคอร์ดนี้จะมีชนิดเป็น Major Triad เช่นเดียวกับ Tonic Triad ความแตกต่างและความสัมพันธ์ระหว่าง 2 คอร์ดนี้ที่เห็นได้ชัดก็คือ
1) Tonic Triad จะมีความมั่นคง ( Stable ) หรือไม่รู้สึกต้องเคลื่อนที่ไปไหน ( Inactive )
Dominant triad จะไม่มีความมั่นคง ( Unstable ) หรือ รู้สึกเสมอว่าต้องเคลื่อนที่ต่อไป ( Active )
2) Tonic Triad ( I ) กับ Dominant Triad ( V ) มีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะโน้ตตัง Root ของแต่ละ Triad นั้น เป็น 4 โน้ตแรกที่เกิดขึ้นใน Overtone Series นั่นคือ
Root ( I ) ---- Root ( I’ ) ---- Root ( V’ ) ---- Root ( I’’ ) สรุปก็คือ ในช่วง 2 Octave แรกของ Overtone Series จะปรากฏแต่โน้ตตัว Root ของ I , V เท่านั้น และด้วยเหตุนี้ การดำเนินของคอร์ดจาก I – V หรือ V – I ไม่ว่าจะเป็นคู่ 4 หรือ คู่ 5 ก็ล้วนแล้วแต่มีความแข็งแรงและกลมกล่อมเป็นที่สุด
3) โน้ตในคอร์ดตัวที่ 3 ของ Dominant Triad นั้น คือโน้ตตัวที่ 7 ของบันไดเสียง ( Leading Note ) ซึ่งจะมีความแรงของเสียงที่จะเกลาเข้าสู่โน้ตตัว Tonic ของบันไดเสียง และ โน้ตตัว Tonic ของบันไดเสียงนี้ก็คือ Root ของ Tonic Triad นั่นเอง ดังนั้นเรามักจะพบว่าคอร์ดที่ตามหลัง Dominant Triad จะนิยมเป็น Tonic Triad เสมอ บางคนอาจแย้งว่า IIIm และ VII๐ ก็มี Leading Note ประกอบอยู่ในคอร์ด แต่ทำไมไม่นิยมเข้าหา Tonic triad เท่ากับ Dominant Triad เหตุก็เพราะว่า โน้ตในคอร์ดตัวที่ 5 ของ Dominant Triad นั่นคือ โน้ตตัวที่ 2 ของบันไดเสียง ( Super Tonic ) ซึ่งโน้ตตัวนี้มีความต้องการที่จะดำเนินต่อไปสูง( Active ) เป็นโน้ตที่ไม่มั่นคง ถ้าสังเกตให้ดี โน้ตตัวนี้ ( 2 ) ดำเนินเสียงสูงขึ้น 1 ขั้น ก็จะไปพบกับโน้ตตัวที่ 3 ของสเกลและโน้ตตัวนี้ก็เป็นโน้ตตัวที่ 3 rd ของ Tonic triad ด้วย ! แต่ถ้าโน้ตตัวนี้ ( 2 ) ดำเนินเสียงต่ำลง 1 ขั้น ก็จะไปพบกับโน้ตตัวที่ 1 ของสเกลและโน้ตตัวนี้ก็เป็นโน้ตตัวที่ Root ของ Tonic triad ด้วยเช่นกัน ! สรุปแล้ว โน้ตใน Dominant Triad ทุกตัวมีความสมบูรณ์และลงตัวที่สุดที่จะดำเนินไปหา Tonic Triad มากกว่า Triad ในลำดับขั้นอื่นๆ
4) การดำเนินคอร์ดขั้นพื้นฐานเราจะใช้ Primary Chord ก่อนเสมอ ( I , IV , V )
ต.ย. C : Major Scale ; I = C , IV = F , V = G
ต.ย. G : Major Scale ; I = G , IV = C , V = D
สรุป Tonic triad และ Dominant Triad ต่างก็เป็น Primary Chord ของกันและกัน
5) ในการนำ Dominant Triad ไปใช้งานนั้น สามารถทำได้หลายวิธี ( เช่นเดียวกับ Tonic Triad ) โดยเฉพาะเรื่องของการ Voicing , การเรียบเรียงเป็น Block Chord , Broken Chord , Arpeggioes และอื่นๆอีกมากมาย
คือ คอร์ดลำดับที่ 5 ของสเกล เป็นคอร์ดที่มีความสำคัญมากที่สุดคอร์ดหนึ่ง จะเป็นรองก็แต่ Tonic Triad เท่านั้น ตรัยแอดคอร์ดนี้จะมีชนิดเป็น Major Triad เช่นเดียวกับ Tonic Triad ความแตกต่างและความสัมพันธ์ระหว่าง 2 คอร์ดนี้ที่เห็นได้ชัดก็คือ
1) Tonic Triad จะมีความมั่นคง ( Stable ) หรือไม่รู้สึกต้องเคลื่อนที่ไปไหน ( Inactive )
Dominant triad จะไม่มีความมั่นคง ( Unstable ) หรือ รู้สึกเสมอว่าต้องเคลื่อนที่ต่อไป ( Active )
2) Tonic Triad ( I ) กับ Dominant Triad ( V ) มีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะโน้ตตัง Root ของแต่ละ Triad นั้น เป็น 4 โน้ตแรกที่เกิดขึ้นใน Overtone Series นั่นคือ
Root ( I ) ---- Root ( I’ ) ---- Root ( V’ ) ---- Root ( I’’ ) สรุปก็คือ ในช่วง 2 Octave แรกของ Overtone Series จะปรากฏแต่โน้ตตัว Root ของ I , V เท่านั้น และด้วยเหตุนี้ การดำเนินของคอร์ดจาก I – V หรือ V – I ไม่ว่าจะเป็นคู่ 4 หรือ คู่ 5 ก็ล้วนแล้วแต่มีความแข็งแรงและกลมกล่อมเป็นที่สุด
3) โน้ตในคอร์ดตัวที่ 3 ของ Dominant Triad นั้น คือโน้ตตัวที่ 7 ของบันไดเสียง ( Leading Note ) ซึ่งจะมีความแรงของเสียงที่จะเกลาเข้าสู่โน้ตตัว Tonic ของบันไดเสียง และ โน้ตตัว Tonic ของบันไดเสียงนี้ก็คือ Root ของ Tonic Triad นั่นเอง ดังนั้นเรามักจะพบว่าคอร์ดที่ตามหลัง Dominant Triad จะนิยมเป็น Tonic Triad เสมอ บางคนอาจแย้งว่า IIIm และ VII๐ ก็มี Leading Note ประกอบอยู่ในคอร์ด แต่ทำไมไม่นิยมเข้าหา Tonic triad เท่ากับ Dominant Triad เหตุก็เพราะว่า โน้ตในคอร์ดตัวที่ 5 ของ Dominant Triad นั่นคือ โน้ตตัวที่ 2 ของบันไดเสียง ( Super Tonic ) ซึ่งโน้ตตัวนี้มีความต้องการที่จะดำเนินต่อไปสูง( Active ) เป็นโน้ตที่ไม่มั่นคง ถ้าสังเกตให้ดี โน้ตตัวนี้ ( 2 ) ดำเนินเสียงสูงขึ้น 1 ขั้น ก็จะไปพบกับโน้ตตัวที่ 3 ของสเกลและโน้ตตัวนี้ก็เป็นโน้ตตัวที่ 3 rd ของ Tonic triad ด้วย ! แต่ถ้าโน้ตตัวนี้ ( 2 ) ดำเนินเสียงต่ำลง 1 ขั้น ก็จะไปพบกับโน้ตตัวที่ 1 ของสเกลและโน้ตตัวนี้ก็เป็นโน้ตตัวที่ Root ของ Tonic triad ด้วยเช่นกัน ! สรุปแล้ว โน้ตใน Dominant Triad ทุกตัวมีความสมบูรณ์และลงตัวที่สุดที่จะดำเนินไปหา Tonic Triad มากกว่า Triad ในลำดับขั้นอื่นๆ
4) การดำเนินคอร์ดขั้นพื้นฐานเราจะใช้ Primary Chord ก่อนเสมอ ( I , IV , V )
ต.ย. C : Major Scale ; I = C , IV = F , V = G
ต.ย. G : Major Scale ; I = G , IV = C , V = D
สรุป Tonic triad และ Dominant Triad ต่างก็เป็น Primary Chord ของกันและกัน
5) ในการนำ Dominant Triad ไปใช้งานนั้น สามารถทำได้หลายวิธี ( เช่นเดียวกับ Tonic Triad ) โดยเฉพาะเรื่องของการ Voicing , การเรียบเรียงเป็น Block Chord , Broken Chord , Arpeggioes และอื่นๆอีกมากมาย