อืมๆ ทำให้ผมอยากเล่าเรื่อง modal chord จริงๆ เฮ้อ
หมายถึง คอร์ดที่แสดงความเป็นโหมด ออกมาน่ะครับ เรื่องพวกนี้ โดยทั่วไปคนไม่ค่อยรู้จัก หรือพูดถึงกัน อย่างคุยกันเล่นๆกับเพื่อนที่เล่นดนตรีด้วยกัน เขาบอก สนใจ การเล่น โหมด ออกมา ผมบอก เอ้อ งั้นถ้าอยากเล่น E phygian จะเล่นคอร์ดอะไร เขาบอกว่า Em .. Em7? คอร์ดอย่าง Em, Em7 นี่เป็นคอร์ด ที่บ่งบอกความเป็นโหมด ได้น้อยครับ เพราะว่า กลิ่นเฉพาะตัว ของ E phrygian มันยังไม่ออก ดังนั้น คำตอบว่า Em, Em7 นี่ ไม่สามารถตอบคำว่า E phrygian ได้ดี นิยาม โหมด - ต่างกับสเกล อย่างไร - การใช้งาน
ถึงแม้ว่า จะมีกระทู้เรื่อง โหมด มาหลายอัน แต่ที่สังเกต ก็จะเป็นเรื่องการใช้งาน เป็นเรื่อง การปรับใช้ การ แอพพลาย เยอะเลยครับ ดังนั้น ผมจะมากำหนด นิยาม ของมันอีกที เพื่อเป็นแนวทางในการเข้าใจระบบการทำงาน ของ โหมด (จริงๆ ผมตั้งใจจะตอบกระทู้เรื่อง โหมดแปลกๆ ฯลฯ แต่เห็นว่า เป็นเรื่องใหญ่เกินกระทู้เกินไป) หลายๆคน สามารถพูดได้ว่า โหมด แต่ละอัน มีโน้ตอะไรบ้าง อารมณ์เป็นอย่างไร เล่นออกมาได้อย่างคล่องแคล่ว หรือแม่กระทั่ง ผสมโน้ตต่างๆออกมา ทำให้เกิดเป็นสีสัน ขึ้นในเพลง ในลักษณะ การประสานเสียง แต่กลับยังไม่เคยมองทะลุลงไปสู่ ธรรมชาติ และกำเนิด ของ โหมด การนำเอา นิยามของมัน มาอ่านดู ก็ทำให้เกิดความโปร่งใส โล่งหัว ขึ้นได้ครับ โดยเฉพาะกรณีที่มีความสงสัยว่า mode เป็นอย่างไร เกี่ยวกับ scale อย่างไร หรือมันเหมือนกัน? แล้ว mode มันมีแค่ 7 อัน หรือไม่.. - - - ที่สำคัญที่ต้องรับรู้กันก็คือ โหมด ไม่ได้มีอยู่ 7 อันนะคร้าบ.. แต่เป็นโหมด ที่เขาชอบใช้ "เริ่มเรียน" กัน เพื่อมันสามารถลิงค์กับ เสกลที่เขา "เริ่มเรียน" กันได้ เช่น major scale - - - คำอธิบายเกี่ยวกับ mode .. mode คืออะไร? ต่างกับ scale อย่างไร: (ผมจะเริ่มจาก ความหมาย ที่กว้างที่สุดก่อน แล้วจึงเข้าสู่ ความหมายสำหรับการใช้งาน) - mode คือ การเรียงลำดับของขั้นคู่ต่างๆ (เช่น whole half whole whole whole half whole --> 1 2 3b 4 5 6 7b 8 กลายเป็น dorian mode) - ซึ่งเมื่อรวมกับการที่กำหนด คีย์ (key) หรือ โทนิค (tonic) จะทำให้รู้ว่ามันเป็นเสียงอะไรบ้้าง (pitch) (เช่น 1 2 3b 4 5 6 7b 8 ที่มีตัวแรก (tonic) เป็น D ก็จะได้โหมด D dorian) - mode มักจะถูกใช้ในรูปของ scale (ดังนั้น ส่วนใหญ่ เราก็มอง โหมด เป็น scale ชนิดหนึ่งด้วย ซึ่งมองได้ เช่น พอจะพูดได้ว่า mode เป็น scale ชนิดหนึ่ง แต่พูดไม่ได้ว่า scale เป็น mode) โดยที่ scale หมายถึง: - เซ็ต (กลุ่ม) ของโน้ตดนตรี ที่เรียงกันเป็นเสียงต่างๆ (pitch) - สามารถพูดถึงว่้าเป็น ขาขึ้น ขาลง ได้ด้วย ทำให้ scale ต่างจากโหมดคือ: - scale พูดถึง กลุ่มของโน้ตต่างๆ ที่นำมาใช้.. โดยไม่พูดถึง tonic หรือ ความสำคัญที่ต่างกันของโน้ตต่างๆในกลุ่มนั้น (เช่น scale C major มีโน้ต C D E F G A B C .. หรือ scale หนึ่งมีโน้ต C C# D F Ab Bb Eb' G' C'' scale พูดถึงโน้ตว่า มีโน้ตอะไรบ้าง แต่ไม่ได้บอกว่า อะไร สำคัญที่สุด และทำหน้าที่อะไร) ซึ่งไม่เหมือนโหมด ที่กำหนดความสำคัญที่ต่างกันของโน้ตต่างๆ และกำหนด tonic - scale พูดถึง กลุ่มของโน้ตต่างๆ ไม่ได้พูดถึง ลำดับ ของ ขั้นคู่ (interval) - - - ในมุมมองของการใช้งาน: ปกติเรามักจะเริ่มพูดถึงเกี่ยวกับ mode ที่มีโน้ต 8 ตัว เริ่มที่โน้ตหนึ่ง และไปจบที่ตัวเดิม เรียงตามตัวอักษรไป จนครบ A B C D E F G และถือว่า mode สามารถซ้ำไปได้ทุก octave เช่น C D E F G A B C ก็เป็นโหมด ในแบบนี้ C D E F G A A# C ไม่ได้เป็นโหมด ในแบบนี้ (เพราะไม่ไ่ด้เรียงอักษร ให้ครบ) C Db E F# G Ab B C เป็นโหมดในแบบนี้ ลักษณะของโหมดแบบนี้ ก็คือ เมื่อเรานำมันมาหมุน แทนที่จะให้ขึ้นจากตัวหนึ่ง เราให้ไปขึ้นที่อีกตัวหนึ่งแทน เราก็จะได้โหมดมาอีกชุดหนึ่ง ซึ่งเมื่อทำวนไปเรื่อยๆแล้ว ก็จะได้โหมดออกมาเป็นชุดๆ ชุดๆละ 7 โหมด เช่นชุดข้างบน เรามองได้ว่า มันเป็น interval ต่างๆดังนี้ (มันเพิ่มเป็นขั้นคู่ ต่อๆกันไป) half, 1.5 tone, whole, half, half, 1.5 tone, half ถ้าเรา หมุนมัน แทนที่จะเริ่มจาก C เราเริ่มจาก Db แทน แต่ใช้โน้ตชุดเดียวกัน ก็จะได้ Db E F# G Ab B C Db จะเห็นเป็น interval ดังนี้ 1.5 tone, whole, half, half, 1.5 tone, half, half จะเห็นได้ว่า แท้ที่จริง interval ก็เป็นชุดเดิมเช่นกัน แต่หมุนถัดไป เมื่อทำแบบนี้ ไปเรื่อยๆ จนครบ 7 ก็จะได้ mode ออกมาชุดหนึ่ง (เป็นลักษณะเดียวกับการหมุน และกำเนิด Ionion, Dorian, Phrygian, Lydian, Mixolydian, Aeolian, Locrian) การใช้โหมด ในเมื่อมันมี tonic หรือมีตัว ตั้งต้น และส่วนที่เหลือ มีความห่างต่างๆ อยู่แวดล้อม การมองโหมดเปล่าๆ จึงเป็นเหมือนกับการมองโทนสี ของภาพวาด จะมีอะไรที่เป็นจุดศูนย์รวมในภาพ และสิ่งที่แวดล้อม ก็มีโทนสีต่างๆ โหมด จึงทำให้เรานึกถึง โทน ของเสียง หรืออารมณ์ ความรู้สึก ที่ออกมากับ กลุ่มโน้ต เหล่านั้นด้วย โดยอาศัย tonic เป็นจุดกลาง ที่เอาไว้ดูโทน.. เช่น ภาพวาด ที่มีกล่องสีแดงแป้ด ตรงกลาง แล้วรอบๆ เป็นสี ขาว เหลือง ฟ้า นวลๆ กับภาพวาด ที่มีกล่องสีขาว ใสๆ ตรงกลาง แล้วรอบๆเป็นสี แดงแป้ด ส้มแป้ด น้ำเงินแป้ด พอมองตรงกลาง มันจะเกิดความรู้สึกบางอย่าง เช่น.. ใส หม่น หวาน กดดัน เพ้อฝัน ฯลฯ นี่เป็นการเปรียบเทียบ ความรู้สึก ที่ได้จากการใช้ โหมด / ฟังโหมด - - - สำหรับวันนี้ก็ขอ intro แค่นี้ก่อนนะครับ เรื่องของ mode ยัง apply ไปได้กับ scale ที่มีไม่ใช่เป็น 7 ตัวก็ได้ เช่น คำว่า pentatonic mode หรือ โหมด ของ เพนทาโทนิค ก็คือ การนำเอา เสกล pentatonic มามองเป็นโหมด และ มาหมุนมัน แล้วได้โหมดออกมา 5 ชุด สำหรับ pentatonic แต่ละแบบ วันนี้ที่ผมเล่า ค่อนข้างจะออกไปในเชิง concept นะครับ ยังไงก็ เพลินกันไปก่อนเน้อ - - - สำหรับผู้ที่รู้สึกว่า ตัวอย่างที่ผมยก ยากไป ก็อาจจะลองไปอ่านจากพวก mode ที่มาจาก major scale ก่อน อย่างเช่น Ionion, Dorian, Phrygian, Lydian, Mixolydian, Aeolian, Locrian และอย่าเพิ่งปักใจกับประโยคประเภท "C Ionion คือ C major scale A Aeolian คือ A minor scale' เพียงแค่เพราะ มันประกอบด้วยโน้ต ที่เหมือนกัน บันไดคอร์ด Diatonic Chord ที่ผมจะเขียนต่อไปนี้ ให้เรียกตัวที่ 1 เป็นโด หมดนะครับ
( หรือ 1 คือ โด 2 คือ เร 3 คือ มี ............. ) Key C C D E F G A B C โด เร มี ฟา ซอล ลา ทรี โด 1. C E G B โด มี ซอล ทรี เรียกว่า C Major7 ซี เมเจ่อร์ เซเว่น 1 3 5 7 2. D F A C เร ฟา ลา โด เรียกว่า Dm7 ดี ไมเน่อร์ เซเว่น 2 4 6 8 ( 8 = 1 ) 3. E G B D มี ซอล ทรี เร เรียกว่า Em7 อี ไมเน่อร์ เซเว่น 3 5 7 9 ( 9 = 2 ) 4. F A C E ฟา ลา โด มี เรียกว่า FMajor7 เอฟ เมเจ่อร์ เซเว่น 4 6 8 10 ( 8 = 1 , 10 = 3 ) 5. G B D F ซอล ทรี เร ฟา เรียกว่า G7 จี เซเว่น (โดมิแน้นท์) 5 7 9 11 ( 9 = 2 , 11 = 4 ) 6. A C E G ลา โด มี ซอล เรียกว่า Am7 เอ ไมเน่อร์ เซเว่น 6 8 10 12 ( 8 = 1 , 10 = 3 , 12 = 5 ) 7. B D F A ทรี เร ฟา ลา เรียกว่า Bm7b5 บี ไมเน่อร์ เซเว่น แฟล๊ตไฟว์ 7 9 11 13 ( 9=2 ,11= 3,13=6) รวมกันได้ 7 Chord คือ 1. CMajor7 2. Dm7 3. Em7 4. FMajor7 5. G7 6. Am7 7. Bm7b5 ทางเดิน ที่ 1 คือ CMajor7 Am7 Dm7 G7 CMajor7 1 6 2 5 1 ทางเดิน ที่ 2 คือ CMajor7 EbDim7 Dm7 G7 CMajor7 1 3bDim7 2 5 1 ทางเดิน ที่ 3 คือ CMajor7 C#Dim7 Dm7 G7 CMajor7 1 1#Dim7 2 5 1 ทางเดิน ที่ 4 คือ CMajor7 C7 FMajor7 Fm CMajor7 1 5/4 4Major7 4m 1 ( C7 เป็น 5 ของ F ) F คือตัวที่ 4 ของ Key C ทางเดิน ที่ 4 ส่วนมากจะใช้ในท่อนสุดท้าย หรือตอนจบ Chord แทน หรือ Sub Chord. Key C 1. CMajor7 2. Dm7 3. Em7 4. FMajor7 5. G7 6. Am7 7. Bm7b5 3 , 6 แทน 1, ( Em7, Am7 แทน CMajor7 ) 6 , 2 แทน 4, ( Am7, Dm7 แทน FMajor7 ) 2b7 แทน 5, ( Db7, แทน G7 ) 7m7b5 แทน 5, ( Bm7b5, แทน G9 ) 2m7b5 แทน 4m6, ( Dm7b5, แทน Fm6 ) Key G ( 1# ) G A B C D E F# G โด เร มี ฟา ซอล ลา ทรี โด 1 2 3 4 5 6 7 8 1. G B D F# โด มี ซอล ทรี ( อังกฤษ GMajor7 จี เมเจ่อร์ เซเว่น ) 1 3 5 7 2. A C E G เร ฟา ลา โด ( อังกฤษ Am7 เอ ไมเน่อร์ เซเว่น ) 2 4 6 8 ( 8 = 1 ) 3. B D F# A มี ซอล ทรี เร ( อังกฤษ Bm7 บี ไมเน่อร์ เซเว่น ) 3 5 7 9 ( 9 = 2 ) 4. C E G B ฟา ลา โด มี ( อังกฤษ C Major7 ซี เมเจ่อร์ เซเว่น ) 4 6 8 10 ( 8 = 1 , 10 = 3 ) 5. D F# A C ซอล ทรี เร ฟา ( อังกฤษ D ดี เซเว่น โดมิแน้นท์ ) 5 7 9 11 ( 9 = 2 , 11 = 4 ) 6. E G B D ลา โด มี ซอล ( อังกฤษ Em7 อี ไมเน่อร์ เซเว่น ) 6 8 10 12 ( 8 = 1 , 10 = 3 , 12 = 5 ) 7. F# A C E ทรี เร ฟา ลา ( อังกฤษ F#m7b5 เอ๊ฟช๊าปไมเน่อร์เซเว่นแฟล๊ไฟว์ ) 7 9 11 13 ( 9 = 2 , 11 = 3 , 13 = 6 ) รวมกันได้ 7 Chord คือ 1. GMajor7 2. Am7 3. Bm7 4. CMajor7 5. D7 6. Em7 7. F#m7b5 ทางเดิน ที่ 1 คือ GMajor7 Em7 Am7 D7 GMajor7 1 6 2 5 1 ทางเดิน ที่ 2 คือ GMajor7 Bbdim7 Am7 D7 GMajor7 1 3bDim7 2 5 1 ทางเดิน ที่ 3 คือ GMajor7 G#dim7 Am7 D7 GMajor7 ( G#= Ab ) 1 1#Dim7 2 5 1 ทางเดิน ที่ 4 คือ GMajor7 G7 C Cm GMajor7 1 5/4 4 4 Minor 1 ( G7 เป็น 5 ของ C ) C คือตัวที่ 4 ของ Key G งง ปะ Chord แทน หรือ Sub Chord. Key G 1. GMajor7 2. Am7 3. Bm7 4. CMajor7 5. D7 6. Em7 7. F#m7b5 3 , 6 แทน 1, ( Bm7, Em7 แทน GMajor7 ) 6 , 2 แทน 4, ( Em7, Am7 แทน CMajor7 ) 2b7 แทน 5, ( Ab7, แทน D7 ) 7m7b5 แทน 5, ( F#m7b5, แทน D9 ) 2m7b5 แทน 4m6, ( Am7b5, แทน Cm6 ) Key D ( 2# ) D E F# G A B C# D โด เร มี ฟา ซอล ลา ทรี โด 1 2 3 4 5 6 7 8 1. D F# A C# โด มี ซอล ทรี ( อังกฤษ DMajor7 ดี เมเจ่อร์ เซเว่น ) 1 3 5 7 2. E G B D เร ฟา ลา โด ( อังกฤษ Em7 อี ไมเน่อร์ เซเว่น ) 2 4 6 8 ( 8 = 1 ) 3. F# A C# E มี ซอล ทรี เร ( อังกฤษ F#m7 เอ๊ฟช้าป ไมเน่อร์ เซเว่น ) 3 5 7 9 ( 9 = 2 ) 4. G B D F# ฟา ลา โด มี ( อังกฤษ G Major7 จีเมเจ่อร์ เซเว่น ) 4 6 8 10 ( 8 = 1 , 10 = 3 ) 5. A C# E G ซอล ทรี เร ฟา ( อังกฤษ A7 เอ เซเว่น โดมิแน้นท์ ) 5 7 9 11 ( 9 = 2 , 11 = 4 ) 6. B D F# A ลา โด มี ซอล ( อังกฤษ Bm7 บี ไมเน่อร์ เซเว่น ) 6 8 10 12 ( 8 = 1 , 10 = 3 , 12 = 5 ) 7. C# E G B ทรี เร ฟา ลา ( อังกฤษ C#m7b5 ซีช๊าปไมเน่อร์เซเว่นแฟล๊ตไฟว์ ) 7 9 11 13 ( 9 = 2 , 11 = 3 , 13 = 6 ) รวมกันได้ 7 Chord คือ 1. DMajor7 2. Em7 3. F#m7 4. GMajor7 5. A7 6. Bm7 7. C#m7b5 ทางเดิน ที่ 1 คือ DMajor7 Bm7 Em7 A7 DMajor7 1 6 2 5 1 ทางเดิน ที่ 2 คือ DMajor7 Fdim7 Em7 A7 DMajor7 1 3bDim7 2 5 1 ทางเดิน ที่ 3 คือ DMajor7 D#dim7 Em7 A7 DMajor7 ( D#= Eb ) 1 1#Dim7 2 5 1 ทางเดิน ที่ 4 คือ DMajor7 D7 G Gm DMajor7 1 5/4 4 4Minor 1 ( D7 เป็น 5 ของ G ) G คือตัวที่ 4 ของ Key D ไม่งง น่า..... Chord แทน หรือ Sub Chord. Key D 1. DMajor7 2. Em7 3. F#m7 4. GMajor7 5. A7 6. Bm7 7. C#m7b5 3 , 6 แทน 1, ( F#m7, Bm7 แทน DMajor7 ) 6 , 2 แทน 4, ( Bm7, Em7 แทน GMajor7 ) 2b7 แทน 5, ( Eb7, แทน A7 ) 7m7b5 แทน 5, ( C#m7b5, แทน A9 ) 2m7b5 แทน 4m6, ( Em7b5, แทน Gm6 ) Key F ( 1 b ) F G A Bb C D E F โด เร มี ฟา ซอล ลา ทรี โด 1 2 3 4 5 6 7 8 1. F A C E โด มี ซอล ทรี ( อังกฤษ F Major7 เอ๊ฟเมเจ่อร์เซเว่น ) 1 3 5 7 2. G Bb D F เร ฟา ลา โด ( อังกฤษ Gm7 จี ไมเน่อร์ เซเว่น ) 2 4 6 8 ( 8 = 1 ) 3. A C E G มี ซอล ทรี เร ( อังกฤษ Am7 เอ ไมเน่อร์ เซเว่น ) 3 5 7 9 ( 9 = 2 ) 4. Bb D F A ฟา ลา โด มี ( อังกฤษ Bb Major7 บีแฟล๊ตเมเจ่อร์เซเว่น ) 4 6 8 10 ( 8 = 1 , 10 = 3 ) 5. C E G Bb ซอล ทรี เร ฟา ( อังกฤษ C7 ซี เซเว่น โดมิแน้นท์ ) 5 7 9 11 ( 9 = 2 , 11 = 4 ) 6. D F A C ลา โด มี ซอล ( อังกฤษ Dm7 ดี ไมเน่อร์ เซเว่น ) 6 8 10 12 ( 8 = 1 , 10 = 3 , 12 = 5 ) 7. E G Bb D ทรี เร ฟา ลา ( อังกฤษ Em7b5 อีไมเน่อร์เซเว่นแฟล๊ตไฟว์ ) 7 9 11 13 ( 9 = 2 , 11 = 3 , 13 = 6 ) รวมกันได้ 7 Chord คือ 1. FMajor7 2. Gm7 3. Am7 4. BbMajor7 5. C7 6. Dm7 7. Em7b5 ทางเดิน ที่ 1 คือ FMajor7 Dm7 Gm7 C7 FMajor7 1 6 2 5 1 ทางเดิน ที่ 2 คือ FMajor7 Abdim7 Gm7 C7 FMajor7 1 3bDim7 2 5 1 ทางเดิน ที่ 3 คือ FMajor7 F#dim7 Gm7 C7 FMajor7 1 1#Dim7 2 5 1 ทางเดิน ที่ 4 คือ FMajor7 F7 Bb Bbm FMajor7 1 5/4 4 4 Minor 1 ( F7 เป็น 5 ของ Bb ) Bb คือตัวที่ 4 ของ Key F Chord แทน หรือ Sub Chord. Key F 1. FMajor7 2. Gm7 3. Am7 4. BbMajor7 5. C7 6. Dm7 7. Em7b5 3 , 6 แทน 1, ( Am7, Dm7 แทน FMajor7 ) 6 , 2 แทน 4, ( Dm7, Gm7 แทน BbMajor7 ) 2b7 แทน 5, ( Gb7, แทน C7 ) Gb = F# 7m7b5 แทน 5, ( Em7b5, แทน C9 ) 2m7b5 แทน 4m6, ( Gm7b5, แทน Bbm6 ) Key Bb ( 2 b ) Bb C D Eb F G A Bb โด เร มี ฟา ซอล ลา ทรี โด 1 2 3 4 5 6 7 8 1. Bb D F A โด มี ซอล ทรี ( อังกฤษ BbMajor7 บีแฟล๊ตเมเจ่อร์เซเว่น ) 1 3 5 7 2. C Eb G Bb เร ฟา ลา โด ( อังกฤษ Cm7 ซี ไมเน่อร์ เซเว่น ) 2 4 6 8 ( 8 = 1 ) 3. D F A C มี ซอล ทรี เร ( อังกฤษ Dm7 ดี ไมเน่อร์ เซเว่น ) 3 5 7 9 ( 9 = 2 ) 4. Eb G Bb D ฟา ลา โด มี ( อังกฤษ EbMajor7 อีแฟล๊ตเมเจ่อร์เซเว่น ) 4 6 8 10 ( 8 = 1 , 10 = 3 ) 5. F A C Eb ซอล ทรี เร ฟา ( อังกฤษ F7 เอฟ เซเว่น โดมิแน้นท์ ) 5 7 9 11 ( 9 = 2 , 11 = 4 ) 6. G Bb D F ลา โด มี ซอล ( อังกฤษ Gm7 จี ไมเน่อร์ เซเว่น ) 6 8 10 12 ( 8 = 1 , 10 = 3 , 12 = 5 ) 7. A C Eb G ทรี เร ฟา ลา ( อังกฤษ Am7b5 เอไมเน่อร์เซเว่นแฟล๊ตไฟว์ ) 7 9 11 13 ( 9 = 2 , 11 = 3 , 13 = 6 ) รวมกันได้ 7 Chord คือ 1. BbMajor7 2. Cm7 3. Dm7 4. EbMajor7 5. F7 6. Gm7 7. Am7b5 ทางเดิน ที่ 1 คือ BbMajor7 Gm7 Cm7 F7 BbMajor7 1 6 2 5 1 ทางเดิน ที่ 2 คือ BbMajor7 Dbdim7 Cm7 F7 BbMajor7 1 3bDim7 2 5 1 ทางเดิน ที่ 3 คือ BbMajor7 Bdim7 Cm7 F7 BbMajor7 1 1#Dim7 2 5 1 ทางเดิน ที่ 4 คือ BbMajor7 Bb7 Eb Ebm BbMajor7 1 5/4 4 4 Minor 1 ( Bb7 เป็น 5 ของ Eb ) Eb คือตัวที่ 4 ของ Key Bb Chord แทน หรือ Sub Chord. Key Bb ( 2 b ) 1. BbMajor7 2. Cm7 3. Dm7 4. EbMajor7 5. F7 6. Gm7 7. Am7b5 3 , 6 แทน 1, ( Dm7, Gm7 แทน BbMajor7 ) 6 , 2 แทน 4, ( Gm7, Cm7 แทน EbMajor7 ) 2b7 แทน 5, ( Cb7, แทน F7 ) Cb = B 7m7b5 แทน 5, ( Am7b5, แทน F9 ) 2m7b5 แทน 4m6, ( Cm7b5, แทน Ebm6 ) Chord แทน หรือ Sub Chord. จะมีเหมือนกันตรงที่ ตัวที่ 5 กับ 7 ครับ เช่น Chord Db7 แทน G7 จะเห็นว่า Chord Db7 มี ตัว F (3) B (7) เหมือนกันกับ Chord G7 B (3) F (7) ลองเอา Chord ตัว อื่นๆ มาคิดดูเล่นๆก็ได้นะครับ จะเห็นได้ว่า เวลาเราจับ Chord พวกนี้ มือซ้าย เป็น Root หรือ Chord Tone อยู่แล้ว มือขวาอย่าให้หลุด สองตัวนี้ ( 3 กับ 7 ) เป็นอันว่า ใช่ได้ รวมทั้งหมดเป็น 5 Key แล้วนะครับ เหลืออีก 7 ทุกๆ Chord ใช้ Chord แทนได้ ยก เว้น Chord 1 หรือ Tonic เขาไม่นิยมใช้กันนะครับ ( เพิ่น เว้า จังซั่น เด๋อคับ ) Key Eb ( 3b ) Eb F G Ab Bb C D Eb โด เร มี ฟา ซอล ลา ทรี โด 1 2 3 4 5 6 7 8 1. Eb G Bb D โด มี ซอล ทรี ( อังกฤษ EbMajor7 อีแฟล๊ตเมเจ่อร์เซเว่น ) 1 3 5 7 2. F Ab C Eb เร ฟา ลา โด ( อังกฤษ Fm7 เอ๊ฟไมเน่อร์เซเว่น ) 2 4 6 8 ( 8 = 1 ) 3. G Bb D F มี ซอล ทรี เร ( อังกฤษ Gm7 จีไมเน่อร์เซเว่น ) 3 5 7 9 ( 9 = 2 ) 4. Ab C Eb Gฟา ลา โด มี ( อังกฤษ AbMajor7 เอแฟล๊ตเมเจ่อร์เซเว่น ) 4 6 8 10 ( 8 = 1 , 10 = 3 ) 5. Bb D F Ab ซอล ทรี เร ฟา ( อังกฤษ Bb7 บีแฟล๊ตเซเว่น โดมิแน้นท์ ) 5 7 9 11 ( 9 = 2 , 11 = 4 ) 6. C Eb G Bb ลา โด มี ซอล ( อังกฤษ Cm7 ซีไมเน่อร์ เซเว่น ) 6 8 10 12 ( 8 = 1 , 10 = 3 , 12 = 5 ) 7. D F Ab C ทรี เร ฟา ลา ( อังกฤษ Dm7b5 ดีไมเน่อร์เซเว่นแฟล๊ตไฟว์ ) 7 9 11 13 ( 9 = 2 , 11 = 3 , 13 = 6 ) รวมกันได้ 7 Chord คือ 1. EbMajor7 2. Fm7 3. Gm7 4. AbMajor7 5. Bb7 6. Cm7 7. Dm7b5 ทางเดิน ที่ 1 คือ EbMajor7 Cm7 Fm7 Bb7 EbMajor7 1 6 2 5 1 ทางเดิน ที่ 2 คือ EbMajor7 Gbdim7 Fm7 Bb7 EbMajor7 ( Gb = F# ) 1 3bDim7 2 5 1 ทางเดิน ที่ 3 คือ EbMajor7 Edim7 Fm7 Bb7 EbMajor7 1 1#Dim7 2 5 1 ทางเดิน ที่ 4 คือ EbMajor7 Eb7 Ab Abm EbMajor7 1 5/4 4 4 Minor 1 ( Eb7 เป็น 5 ของ Ab ) Ab คือตัวที่ 4 ของ Key Eb Chord แทน หรือ Sub Chord. Key Eb 1. EbMajor7 2. Fm7 3. Gm7 4. AbMajor7 5. Bb7 6. Cm7 7. Dm7b5 3 , 6 แทน 1, ( Gm7, Cm7 แทน EbMajor7 ) 6 , 2 แทน 4, ( Cm7, Fm7 แทน AbMajor7 ) 2b7 แทน 5, ( Fb7, แทน Bb7 ) Fb7 = E7 7m7b5 แทน 5, ( Dm7b5, แทน Bb9 ) 2m7b5 แทน 4m6, ( Fm7b5, แทน Abm6 ) Key Ab ( 4 b ) Ab Bb C Db Eb F G Ab โด เร มี ฟา ซอล ลา ทรี โด 1 2 3 4 5 6 7 8 1. Ab C Eb G โด มี ซอล ทรี ( อังกฤษ AbMajor7 เอแฟล๊ตเมเจ่อร์เซเว่น ) 1 3 5 7 2. Bb Db F Ab เร ฟา ลา โด ( อังกฤษ Bbm7 บีแฟล๊ต ไมเน่อร์ เซเว่น ) 2 4 6 8 ( 8 = 1 ) 3. C Eb G Bb มี ซอล ทรี เร ( อังกฤษ Cm7 ซี ไมเน่อร์ เซเว่น ) 3 5 7 9 ( 9 = 2 ) 4. Db F Ab C ฟา ลา โด มี ( อังกฤษ DbMajor7 ดีแฟล๊ต เมเจ่อร์ เซเว่น ) 4 6 8 10 ( 8 = 1 , 10 = 3 ) 5. Eb G Bb Db ซอล ทรี เร ฟา ( อังกฤษ Eb7 อีแฟล๊ตเซเว่น โดมิแน้นท์ ) 5 7 9 11 ( 9 = 2 , 11 = 4 ) 6. F Ab C Eb ลา โด มี ซอล ( อังกฤษ Fm7 เอ๊ฟ ไมเน่อร์ เซเว่น ) 6 8 10 12 ( 8 = 1 ,10 = 3 , 12 = 5 ) 7. G Bb Db F ทรี เร ฟา ลา ( อังกฤษ Gm7b5 จีไมเน่อร์ เซเว่น แฟล๊ตไฟว์ ) 7 9 11 13 ( 9 = 2 ,11 = 3 , 13 = 6 ) รวมกันได้ 7 Chord คือ 1. AbMajor7 2. Bbm7 3. Cm7 4. DbMajor7 5. Eb7 6. Fm7 7. Gm7b5 ทางเดิน ที่ 1 คือ AbMajor7 Fm7 Bbm7 Eb7 AbMajor7 1 6 2 5 1 ทางเดิน ที่ 2 คือ AbMajor7 Cbdim7 Bbm7 Eb7 AbMajor7 ( Cb = B) 1 3bDim7 2 5 1 ทางเดิน ที่ 3 คือ AbMajor7 Adim7 Bbm7 Eb7 AbMajor7 1 1#Dim7 2 5 1 ทางเดิน ที่ 4 คือ AbMajor7 Ab7 Db Dbm AbMajor7 1 5/4 4 4 Minor 1 ( Ab7 เป็น 5 ของ Db ) Db คือตัวที่ 4 ของ Key Ab Chord แทน หรือ Sub Chord. Key Ab 1. AbMajor7 2. Bbm7 3. Cm7 4. DbMajor7 5. Eb7 6. Fm7 7. Gm7b5 3 , 6 แทน 1, ( Cm7, Fm7 แทน AbMajor7 ) 6 , 2 แทน 4, ( Fm7, Bbm7 แทน DbMajor7 ) 2b7 แทน 5, ( Bbb7, แทน Eb7 ) Bbb7 = A7 7m7b5 แทน 5, ( Gm7b5, แทน Eb9 ) 2m7b5 แทน 4m6, ( Bbm7b5, แทน Dbm6 ) Key Db ( 5 b ) Db Eb F Gb Ab Bb C Db โด เร มี ฟา ซอล ลา ทรี โด 1 2 3 4 5 6 7 8 1. Db F Ab C โด มี ซอล ทรี ( อังกฤษ DbMajor7 ดีแฟล๊ต เมเจ่อร์ เซเว่น ) 1 3 5 7 2. Eb Gb Bb Db เร ฟา ลา โด ( อังกฤษ Ebm7 อีแฟล๊ต ไมเน่อร์ เซเว่น ) 2 4 6 8 ( 8 = 1 ) 3. F Ab C Eb มี ซอล ทรี เร ( อังกฤษ Fm7 เอ๊ฟ ไมเน่อร์ เซเว่น ) 3 5 7 9 ( 9 = 2 ) 4. Gb Bb Db F ฟา ลา โด มี ( อังกฤษ GbMajor7 จีแฟล๊ต เมเจ่อร์ เซเว่น ) 4 6 8 10 ( 8 = 1 , 10 = 3 ) 5. Ab C Eb Gb ซอล ทรี เร ฟา ( อังกฤษ Ab7 เอแฟล๊ตเซเว่น โดมิแน้นท์ ) 5 7 9 11 ( 9 = 2 , 11 = 4 ) 6. Bb Db F Ab ลา โด มี ซอล ( อังกฤษ Bbm7 บีแฟล๊ตไมเน่อร์เซเว่น ) 6 8 10 12 ( 8 = 1 , 10 = 3 , 12 = 5 ) 7. C Eb Gb Bb ทรี เร ฟา ลา ( อังกฤษ Cm7b5 ซีไมเน่อร์เซเว่นแฟล๊ตไฟว์ ) 7 9 11 13 ( 9 = 2 , 11 = 3 , 13 = 6 ) รวมกันได้ 7 Chord คือ 1. DbMajor7 2. Ebm7 3. Fm7 4. GbMajor7 5. Ab7 6. Bbm7 7. Cm7b5 ทางเดิน ที่ 1 คือ DbMajor7 Bbm7 Ebm7 Ab7 DbMajor7 1 6 2 5 1 ทางเดิน ที่ 2 คือ DbMajor7 Fbdim7 Ebm7 Ab7 DbMajor7 ( Fb = E) 1 3bDim7 2 5 1 ทางเดิน ที่ 3 คือ DbMajor7 Ddim7 Ebm7 Ab7 DbMajor7 1 1#Dim7 2 5 1 ทางเดิน ที่ 4 คือ DbMajor7 Db7 Gb Gbm DbMajor7 1 5/4 4 4 Minor 1 ( Db7 เป็น 5 ของ Gb ) Gb คือตัวที่ 4 ของ Key Db Chord แทน หรือ Sub Chord. Key Db 1.DbMajor7 2. Ebm7 3. Fm7 4. GbMajor7 5. Ab7 6. Bbm7 7. Cm7b5 3 , 6 แทน 1, ( Fm7, Bbm7 แทน DbMajor7 ) 6 , 2 แทน 4, ( Bbm7, Ebm7 แทน GbMajor7 ) 2b7 แทน 5, ( Ebb7, แทน Ab7 ) Ebb7 = D7 7m7b5 แทน 5, ( Cm7b5, แทน Ab9 ) 2m7b5 แทน 4m6, ( Ebm7b5, แทน Gbm6 ) ( สำหรับทางเดินที่ 4 ของทุกๆ Key นั้น 1 5/4 4 4 Minor 1 ตรง ที่ Chord 4 Minor นั้น จะมี 7 หรือไม่ ก็ได้ เช่น สมมุติ Key C ตัว F คือ 4 จะเป็น Fm หรือ Fm7 ก็ได้ ครับ แล้วแต่ Melody จะพาไป ) ทุกๆคำพูดในขอเขียนของผมที่ผ่านมา ผมอยากให้เอาไปฝึกเล่น Piano นะครับ อ่านให้เขาใจเฉยๆ และไม่ฝึก จะไม่ได้อะไรเลยนะครับ ฝึกไล่ Scale ทุกๆ Key และ หัดจับ Chord ทุกๆ Chord ให้ได้จนชำนาญ และจำให้ได้ ว่านี่ Chord 1 นี่ Chord 2 นี่ Chord 3 นี่ Chord 4 ไปเรื่อยๆ นะ เวลา ไล่ Scale ให้ท่อง โด เร มี ฟา ซอล ลา ทรี โด ในใจของเรา ตามไปด้วยเสมอนะครับ พอหูของเรา จำเสียง โด เร มี ได้ ก็ไม่ต้องมองตาม นิ้วมือของเราอีกหลับตาเล่นยิ่งดี เพราะถ้านิ้วเราเล่นผิดตัว ผิดเสียง เราจะฟังออกทันทีเลย ว่านิ้วผิดครับ มาต่อกันให้ครบ 12 Key นะครับ Key A ( 3 # ) A B C#D E F# G#A โด เร มี ฟา ซอล ลา ทรี โด 1 2 3 4 5 6 7 8 1. A C# E G# โด มี ซอล ทรี ( อังกฤษ AMajor7 เอ เมเจ่อร์ เซเว่น ) 1 3 5 7 2. B D F# A เร ฟา ลา โด ( อังกฤษ Bm7 บีไมเน่อร์ เซเว่น ) 2 4 6 8 ( 8 = 1 ) 3. C# E G# B มี ซอล ทรี เร ( อังกฤษ C#m7 ซีช๊าฟ ไมเน่อร์ เซเว่น ) 3 5 7 9 ( 9 = 2 ) 4. D F# A C# ฟา ลา โด มี ( อังกฤษ DMajor7 ดี เมเจ่อร์ เซเว่น ) 4 6 8 10 ( 8 = 1 , 10 = 3 ) 5. E G# B D ซอล ทรี เร ฟา ( อังกฤษ E7 อี เซเว่น โดมิแน้นท์ ) 5 7 9 11 ( 9 = 2 , 11 = 4 ) 6. F# A C# E ลา โด มี ซอล ( อังกฤษ F#m7 เอ๊ฟช๊าฟ ไมเน่อร์ เซเว่น ) 6 8 10 12 ( 8 = 1 , 10 = 3 , 12 = 5 ) 7. G# B D F# ทรี เร ฟา ลา ( อังกฤษ G#m7b5 จีช๊าฟไมเน่อร์เซเว่นแฟล๊ตไฟว์ ) 7 9 11 13 ( 9 = 2 , 11 = 3 , 13 = 6 ) รวมกันได้ 7 Chord คือ 1. AMajor7 2. Bm7 3. C#m7 4. DMajor7 5. E7 6. F#m7 7. G#m7b5 ทางเดิน ที่ 1 คือ AMajor7 F#m7 Bm7 E7 AMajor7 1 6 2 5 1 ทางเดิน ที่ 2 คือ AMajor7 Cdim7 Bm7 E7 AMajor7 1 3bDim7 2 5 1 ทางเดิน ที่ 3 คือ AMajor7 A#dim7 Bm7 E7 AMajor7 ( A# = Bb ) 1 1#Dim7 2 5 1 ทางเดิน ที่ 4 คือ AMajor7 A7 D Dm AMajor7 1 5/4 4 4 Minor 1 ( A7 เป็น 5 ของ D ) D คือตัวที่ 4 ของ Key A Chord แทน หรือ Sub Chord. Key A 1. AMajor7 2. Bm7 3. C#m7 4. DMajor7 5. E7 6. F#m7 7. G#m7b5 3 , 6 แทน 1, ( C#m7, F#m7 แทน AMajor7 ) 6 , 2 แทน 4, ( F#m7, Bm7 แทน DMajor7 ) 2b7 แทน 5, ( Bb7, แทน E7 ) 7m7b5 แทน 5, ( G#m7b5, แทน E9 ) 2m7b5 แทน 4m6, ( Bm7b5, แทน Dm6 ) Key E ( 4 # ) E F# G#A B C# D#E โด เร มี ฟา ซอล ลา ทรี โด 1 2 3 4 5 6 7 8 1. E G# B D# โด มี ซอล ทรี ( อังกฤษ EMajor7 อี เมเจ่อร์ เซเว่น ) 1 3 5 7 2. F# A C# E เร ฟา ลา โด ( อังกฤษ F#m7 เอ๊ฟช๊าฟ ไมเน่อร์ เซเว่น ) 2 4 6 8 ( 8 = 1 ) 3. G# B D# F# มี ซอล ทรี เร ( อังกฤษ G#m7 จีช๊าฟ ไมเน่อร์ เซเว่น ) 3 5 7 9 ( 9 = 2 ) 4. A C# E G# ฟา ลา โด มี ( อังกฤษ AMajor7 เอ เมเจ่อร์ เซเว่น ) 4 6 8 10 ( 8 = 1 , 10 = 3 ) 5. B D# F# A ซอล ทรี เร ฟา ( อังกฤษ B7 บี เซเว่น โดมิแน้นท์ ) 5 7 9 11 ( 9 = 2 , 11 = 4 ) 6. C# E G# B ลา โด มี ซอล ( อังกฤษ C#m7 ซีช๊าฟ ไมเน่อร์ เซเว่น ) 6 8 10 12 ( 8 = 1 , 10 = 3 , 12 = 5 ) 7. D# F# A C# ทรี เร ฟา ลา ( อังกฤษ D#m7b5 ดีช๊าฟไมเน่อร์เซเว่นแฟล๊ตไฟว์) 7 9 11 13 ( 9 = 2 , 11 = 3 , 13 = 6 ) รวมกันได้ 7 Chord คือ 1. EMajor7 2. F#m7 3. G#m7 4. AMajor7 5. B7 6. C#m7 7. D#m7b5 ทางเดิน ที่ 1 คือ EMajor7 C#m7 F#m7 B7 EMajor7 1 6 2 5 1 ทางเดิน ที่ 2 คือ EMajor7 Gdim7 F#m7 B7 EMajor7 1 3bDim7 2 5 1 ทางเดิน ที่ 3 คือ EMajor7 Fdim7 F#m7 B7 EMajor7 1 1#Dim7 2 5 1 ทางเดิน ที่ 4 คือ EMajor7 E7 A Am EMajor7 1 5/4 4 4 Minor 1 ( E7 เป็น 5 ของ A ) A คือตัวที่ 4 ของ Key E Chord แทน หรือ Sub Chord. Key E 1. EMajor7 2. F#m7 3. G#m7 4. AMajor7 5. B7 6. C#m7 7. D#m7b5 3 , 6 แทน 1, ( G#m7, C#m7 แทน EMajor7 ) 6 , 2 แทน 4, ( C#m7, F#m7 แทน AMajor7 ) 2b7 แทน 5, ( F7, แทน B7 ) 7m7b5 แทน 5, ( D#m7b5, แทน B9 ) 2m7b5 แทน 4m6, ( F#m7b5, แทน Am6 ) Key B ( 5 # ) B C# D#E F# G# A#B โด เร มี ฟา ซอล ลา ทรี โด 1 2 3 4 5 6 7 8 1. B D# F# A# โด มี ซอล ทรี ( อังกฤษ BMajor7 บี เมเจ่อร์ เซเว่น ) 1 3 5 7 2. C# E G# B เร ฟา ลา โด ( อังกฤษ C#m7 ซีช๊าฟ ไมเน่อร์ เซเว่น ) 2 4 6 8 ( 8 = 1 ) 3. D# F# A# C# มี ซอล ทรี เร ( อังกฤษ D#m7 ดีช๊าฟ ไมเน่อร์ เซเว่น ) 3 5 7 9 ( 9 = 2 ) 4. E G# B D# ฟา ลา โด มี ( อังกฤษ EMajor7 อี เมเจ่อร์ เซเว่น ) 4 6 8 10 ( 8 = 1 , 10 = 3 ) 5. F# A# C# E ซอล ทรี เร ฟา ( อังกฤษ F#7 เอ๊ฟช๊าฟ เซเว่น โดมิแน้นท์ ) 5 7 9 11 ( 9 = 2 , 11 = 4 ) 6. G# B D# F# ลา โด มี ซอล ( อังกฤษ G#m7 จีช๊าฟ ไมเน่อร์ เซเว่น ) 6 8 10 12 ( 8 = 1 , 10 = 3 , 12 = 5 ) 7. A# C# E G# ทรี เร ฟา ลา ( อังกฤษ A#m7b5 เอช๊าฟไมเน่อร์เซเว่นแฟล๊ตไฟว์) 7 9 11 13 ( 9 = 2 , 11 = 3 , 13 = 6 ) รวมกันได้ 7 Chord คือ 1. BMajor7 2. C#m7 3. D#m7 4. EMajor7 5. F#7 6. G#m7 7. A#m7b5 ทางเดิน ที่ 1 คือ BMajor7 G#m7 C#m7 F#7 BMajor7 1 6 2 5 1 ทางเดิน ที่ 2 คือ BMajor7 Ddim7 C#m7 F#7 BMajor7 1 3bDim7 2 5 1 ทางเดิน ที่ 3 คือ BMajor7 Cdim7 C#m7 F#7 BMajor7 1 1#Dim7 2 5 1 ทางเดิน ที่ 4 คือ BMajor7 B7 E Em BMajor7 1 5/4 4 4 Minor 1 ( B7 เป็น 5 ของ E ) E คือตัวที่ 4 ของ Key B Chord แทน หรือ Sub Chord. Key B 1. BMajor7 2. C#m7 3. D#m7 4. EMajor7 5. F#7 6. G#m7 7. A#m7b5 3 , 6 แทน 1, ( D#m7, G#m7 แทน BMajor7 ) 6 , 2 แทน 4, ( G#m7, C#m7 แทน EMajor7 ) 2b7 แทน 5, ( C7, แทน F#7 ) 7m7b5 แทน 5, ( A#m7b5, แทน F#9 ) 2m7b5 แทน 4m6, ( C#m7b5, แทน Em6 ) Key เดียวกัน เขียนได้ สองแบบแถมให้ก็แล้วกัน ( เด๋อคับ ) สอง Key นี้เป็น Key เดียวกันนะ แล้วแต่ว่าใครจะชอบเขียนแบบไหน ( F# กับ Gb เป็น Key เดียวกัน ) Key F# ( 6 # ) F# G# A#B C# D# E#F# โด เร มี ฟา ซอล ลา ทรี โด ( E# = F ) 1 2 3 4 5 6 7 8 1. F# A# C# E# โด มี ซอล ทรี ( อังกฤษ F#Major7 เอ๊ฟช๊าฟเมเจ่อร์เซเว่น ) 1 3 5 7 2. G# B D# F# เร ฟา ลา โด ( อังกฤษ G#m7 จีช๊าฟไมเน่อร์เซเว่น ) 2 4 6 8 ( 8 = 1 ) 3. A# C# E# G# มี ซอล ทรี เร ( อังกฤษ A#m7 เอช๊าฟ ไมเน่อร์ เซเว่น ) 3 5 7 9 ( 9 = 2 ) 4. B D# F# A# ฟา ลา โด มี ( อังกฤษ BMajor7 บี เมเจ่อร์ เซเว่น ) 4 6 8 10 ( 8 = 1 , 10 = 3 ) 5. C# E# G# B ซอล ทรี เร ฟา ( อังกฤษ C#7 ซีช๊าฟเซเว่นโดมิแน้นท์ ) 5 7 9 11 ( 9 = 2 , 11 = 4 ) 6. D# F# A# C# ลา โด มี ซอล ( อังกฤษ D#m7 ดีช๊าฟไมเน่อร์เซเว่น ) 6 8 10 12 ( 8 = 1 , 10 = 3 , 12 = 5 ) 7. E# G# B D# ทรี เร ฟา ลา ( อังกฤษ E#m7b5 อีช๊าฟไมเน่อร์เซเว่นแฟล๊ตไฟว์) 7 9 11 13 ( 9 = 2 , 11 = 3 , 13 = 6 ) รวมกันได้ 7 Chord คือ 1. F#Major7 2. G#m7 3. A#m7 4. BMajor7 5. C#7 6. D#m7 7. E#m7b5 ทางเดิน ที่ 1 คือ F#Major7 D#m7 G#m7 C#7 F#Major7 1 6 2 5 1 ทางเดิน ที่ 2 คือ F#Major7 Adim7 G#m7 C#7 F#Major7 1 3bDim7 2 5 1 ทางเดิน ที่ 3 คือ F#Major7 Gdim7 G#m7 C#7 F#Major7 1 1#Dim7 2 5 1 ทางเดิน ที่ 4 คือ F#Major7 F#7 B Bm F#Major7 1 5/4 4 4 Minor 1 ( F#7 เป็น 5 ของ B ) B คือตัวที่ 4 ของ Key F# Chord แทน หรือ Sub Chord. Key F# 1. F#Major7 2. G#m7 3. A#m7 4. BMajor7 5. C#7 6. D#m7 7. E#m7b5 3 , 6 แทน 1, ( A#m7, D#m7 แทน F#Major7 ) 6 , 2 แทน 4, ( D#m7, G#m7 แทน BMajor7 ) 2b7 แทน 5, ( G7, แทน C#7 ) 7m7b5 แทน 5, ( E#m7b5, แทน C#9 ) 2m7b5 แทน 4m6, ( G#m7b5, แทน Bm6 ) Key Gb ( 6 b ) Gb Ab BbCb Db Eb F Gb โด เร มี ฟา ซอล ลา ทรี โด ( Cb= B ) 1 2 3 4 5 6 7 8 1. Gb Bb Db F โด มี ซอล ทรี ( อังกฤษ GbMajor7 จีแฟล๊ตเมเจ่อร์เซเว่น ) 1 3 5 7 2. Ab Cb Eb Gb เร ฟา ลา โด ( อังกฤษ Abm7 เอแฟล๊ตไมเน่อร์เซเว่น ) 2 4 6 8 ( 8 = 1 ) 3. Bb Db F Ab มี ซอล ทรี เร ( อังกฤษ Bbm7 บีแฟล๊ตไมเน่อร์เซเว่น ) 3 5 7 9 ( 9 = 2 ) 4. Cb Eb Gb Bb ฟา ลา โด มี ( อังกฤษ CbMajor7 ซีแฟล๊ตเมเจ่อร์เซเว่น ) 4 6 8 10 ( 8 = 1 , 10 = 3 ) 5. Db F Ab Cb ซอล ทรี เร ฟา ( อังกฤษ Db7 ดีแฟล๊ตเซเว่น โดมิแน้นท์ ) 5 7 9 11 ( 9 = 2 , 11 = 4 ) 6. Eb Gb Bb Db ลา โด มี ซอล ( อังกฤษ Ebm7 อีแฟล๊ตไมเน่อร์เซเว่น ) 6 8 10 12 ( 8 = 1 , 10 = 3 , 12 = 5 ) 7. F Ab Cb Eb ทรี เร ฟา ลา ( อังกฤษ Fm7b5 เอ๊ฟ ไมเน่อร์เซเว่นแฟล๊ตไฟว์) 7 9 11 13 ( 9 = 2 , 11 = 3 , 13 = 6 ) รวมกันได้ 7 Chord คือ 1. GbMajor7 2. Abm7 3. Bbm7 4. CbMajor7 5. Db7 6. Ebm7 7. Fm7b5 ทางเดิน ที่ 1 คือ GbMajor7 Ebm7 Abm7 Db7 GbMajor7 1 6 2 5 1 ทางเดิน ที่ 2 คือ GbMajor7 Adim7 Abm7 Db7 GbMajor7 1 3bDim7 2 5 1 ทางเดิน ที่ 3 คือ GbMajor7 Gdim7 Abm7 Db7 GbMajor7 1 1#Dim7 2 5 1 ทางเดิน ที่ 4 คือ GbMajor7 Gb7 Cb Cbm GbMajor7 1 5/4 4 4 Minor 1 ( Gb7 เป็น 5 ของ Cb ) Cb คือตัวที่ 4 ของ Key Gb Chord แทน หรือ Sub Chord. Key Gb 1. GbMajor7 2. Abm7 3. Bbm7 4. CbMajor7 5. Db7 6. Ebm7 7. Fm7b5 3 , 6 แทน 1, ( Bbm7, Ebm7 แทน GbMajor7 ) 6 , 2 แทน 4, ( Ebm7, Abm7 แทน CbMajor7 ) 2b7 แทน 5, ( Abb7, แทน Db7 ) Abb7 = G7 7m7b5 แทน 5, ( Fm7b5, แทน Db9 ) 2m7b5 แทน 4m6, ( Abm7b5, แทน Cbm6 ) Cbm6 = Bm6 ครบหมด 12 Key แล้วนะ ทีนี้ ก็ตัวใคร ก็ตัวมันนะครับบังคับกันเอาเองนะพ่อทูลหัว ทั้งหลาย ใคร อยากจะขึ้นถึงชั้นไหน ก็เลือกเอาเลย ยังมีที่ว่าง อยู่อีกมากมาย ครับผม Scales Major ทุกๆ Scales สามารถเป็นได้ 2 Key ทั้ง Major และ Minor ให้จำไว้ง่ายๆ ก็คือ ตัวที่ 6 ของ Scales Major คือ Key Minor ชอง Scales นั้นๆ เพราะเป็นตัวที่เกี่ยวข้องกัน ( Relative ) ถ้าเป็น Scales C Major ก็ได้ คือ C D E F G A B C A คือตัวที่ 6 Scales C Major 1 2 3 4 5 6 7 8 Tonic เป็น C ก็คือ Key C Major, Tonic เป็น A ก็คือ Key A Minor ( ดูที่ Bass ) เพราะว่า A เป็นตัว ที่ 6 ของ Scales C Major ถ้าหากเราอยากรู้ว่าโน๊ตเพลงที่มีอยู่เป็น Key อะไรให้ดูตอนจบของเพลงว่าจบดัวย Chord อะไร ถ้าจบด้วย Major และลงท้ายด้วย Chord C6 CMajor7 C9 และใน Melody ของเพลงจะมี Chord 1 6 2 5 1 C Am7 Dm7 G7 C คือเพลงทาง Scales Major ถ้าเป็นทาง Scales Minor จะจบด้วย Chord Am6 AmMajor7 Am9 และใน Melody ของเพลงจะมี Chord E7 มาก เพราะเป็น Chord ที่ 5 ของ Am ถ้าเอา คอร์ด Am เป็น 1 หรือทาง Scales Minor ( E7 เป็นไฟว์เซเว่นซิกของ Am ) ใน Scales C Major, Am คือตัวที่ 6 ใน Scales C Major ซื่งมี Chord E7 บ้าง แต่ก็ใช้ใน Scales Major น้อยมากแต่บางทีคนแต่งเขาจะจบด้วย Chord A ธรรมดา ก็เรียกเป็น เพลงทาง Minor ครับ ( ถ้าหากเป็นทาง Major ต้องจบด้วย Chord C เพราะ Scales เป็น C ) ถ้าหากอยากทราบว่าเพลงที่เล่นอยู่ Key อะไรให้ดู Chord ตอนจบเพลง ตก Chord อะไร ก็คือ Key นั้น นอกจากว่าเพลงนั้นมีการเปลี่ยน Key ก็บอก ได้ว่า เพลงนี้มีสอง Key ครับ หรือให้หลับตาฟัง Melody แล้ว ให้นึกเป็น โด เร มี ตามที่ ผมบอกไว้ใน ตอนที่ 3 พอได้ โด เร มี ชัดๆ จุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของพิณสามสาย ที่ตั้งสายแบบ มี ลา มี
........................................................................................... บทความนี้ เกี่ยวกับเสียงพิณ ตามหลักดนตรีสากล ที่ผมหาเจอครับ 1 สายหนึ่ง เป็นขั้นคู่เสียงที่5 กับสายสอง(นับจากโน้ตสายหนึ่งถึงสายสองได้ 5 ตัว) ทุกช่องเฟรทที่ตรงกัน ทำให้เล่นคู่5 ได้ง่ายๆ โดยการใช้นิ้วตบลงไปในช่องใดช่องหนึ่งให้โดนสายหนึ่งและสอง แล้วยกขึ้น จะทำให้เกิดเสียงประสานพร้อมกันที่สมบูรณ์ครับ ซึ่งเรียกว่า พาวเวอร์คอร์ด ที่ทำได้ง่ายกว่าเครื่องสายชนิดอื่น 2. สายสองเป็นขั้นคู่เสียงที่4 กับสายสาม (นับจากโน้ตสายสองถึงสายสามได้ 4 ตัว) ทุกช่องเฟรทที่ตรงกัน ทำให้เล่นคู่4 ได้ง่ายๆ โดยการใช้นิ้วตบลงไปในช่องใดช่องหนึ่งให้โดนสายสองและสาม แล้วยกขึ้น จะทำให้เกิดเสียงประสานคู่ 4 สร้างสีสันได้ดีครับ 3. สายหนึ่งเป็นขั้นคู่เสียงที่8 กับสายสาม (นับจากโน้ตสายหนึ่งถึงสายสองได้ 8 ตัว ต่าง Octaves) ทุกช่องเฟรทที่ตรงกัน ทำให้เล่นคู่8 ได้ง่ายๆ โดยการใช้นิ้วตบลงไปในช่องใดช่องหนึ่งให้โดนทั้งสามสาย แล้วยกขึ้น จะทำให้เกิดเสียงประสานคู่ 8 สร้างความหนักแน่นให้เสียงได้ดีครับ แน่นอนความ เราเล่นคู่8 กับพิณได้ง่ายกว่าเครื่องดนตรีอื่น เพราะเฟรทเดียวกัน 4 ข้อ 1,2,3 สามารถเล่นได้ทั้งแบบออกเสียงพร้อมกัน หรือจะออกเสียงเรียงกันก็ได้ ไม่สำคัญว่าสายไหนจะเล่นก่อนหรือหลัง จะได้ผลเหมือนกัน |