ด้วยความเข้าใจวิธีการเล่นพิณอย่างถ่องแท้ทำให้สามารถใช้นิ้วได้ถูกต้องเหมาะสม
ด้วยลักษณะของพิณ ที่มีคอเล็กกว่ากีตาร์ ผู้เล่นจึงสามารถกำคอพิณได้รอบ ไม่ต้องโก่งนิ้วมากนัก
ก็สามารถกดสายพิณที่อยู่บนสุด
อีกทั้งวิธีการเล่นพิณ ที่เป็นลักษณะเล่นเรียงโน้ตทีละตัว (แม้จะมีระบบการเล่นคอร์ดแบบเดียวกับกีตาร์ ซึ่งอาจต้องไปใช้นิ้วตามวิธีของการเล่นกีตาร์) การเล่นพิณจึงไม่ต้องกลัวเสียงบอดที่เกิดจากการกดสายโดยสายข้างๆ
ซึ่งการใช้นิ้วบนพิณ สามารถใช้แบบกีตาร์ทั้งหมดเลย คือโก่งนิ้ว ใช้ปลายนิ้ว ไม่ให้โดนสายข้างๆตลอดเวลา หรือ การใช้บริเวณลายก้นหอยนิ้วกดโดยไม่ต้องระวังสายข้างๆ อาจโดนสายข้างๆก็ได้ แต่ต้องยกนิ้วให้พ้นสายข้างๆเมื่อถึงเวลาต้องดีดเมื่อเล่นโน้ตติดกัน
ด้วยวิธีการเล่นพิณ ที่ต้องเล่นทีละตัวโน้ต ต้องการหางเสียงน้อยๆที่เกิดจากการสั่นของสายที่เกิดจากการยกนิ้ว ซึ่งเรียกว่า "ลูกควบ" รวมถึงเป็นการกำหนดความยาวของตัวโน้ตด้วย ทำให้ต้องยกนิ้วเกือบทุกครั้งหลังดีดสาย (ยกเว้นบางตัวที่ไม่ต้องยกนิ้ว จะได้กล่าวต่อไป) ทำให้การกดนิ้วแบบก้นหอย (รูปมือขวาสุด) เหมาะที่สุดสำหรับการเล่นพิณ สาย 3 ส่วนการกดด้วยปลายนิ้วนั้นก็เป็นไปตามธรรมชาติ และความยาวของนิ้วเมื่อต้องกดสาย หนึ่งและสายสอง
กล่าวโดยสรุปก็คือ สามารถใช้ได้ทั้งปลายนิ้ว และก้นหอย แต่ต้องยกนิ้วให้พ้นสายข้างๆไม่ให้เสียงบอดเมื่อต้องดีดโน้ตบนสายข้างๆนั่นเอง